ตั้ง 7 อรหันต์คัดประธาน ธปท.พ่วงเลือกกรรมการ 2 ราย-“สถิตย์” นำทีม

พิชัยเซ็นคำสั่งกระทรวงการคลังแต่งตั้ง 7 อดีต “ปลัด-เลขาธิการ” เป็นกรรมการคัดเลือก “ประธานบอร์ด ธปท.” คนใหม่ แทน “ปรเมธี” ที่จะดำรงตำแหน่งครบวาระที่สอง 11 ก.ย.นี้ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” นำทีม ขณะที่เกณฑ์กำหนดประธานแบงก์ชาติต้องเลือกจากรายชื่อที่ปลัดคลังเสนอได้ 1 เท่า ส่วนผู้ว่าการ ธปท. เสนอชื่อได้ 2 เท่า

รายงานจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรียบร้อยแล้ว โดยลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกมีด้วยกัน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง 2.นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์

3.นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 4.นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 5.นายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 6.นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ 7.นายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกจะมีอำนาจหน้าที่ ประกอบด้วย 1.กำหนดระเบียบว่าด้วยการประชุม การเสนอชื่อการพิจารณา และการคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการ ธปท. ตามมาตรา 28/2 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ โดยเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และดำเนินการทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ตามมาตรา 28/5 แห่ง พ.ร.บ.ธปท. และ 3.ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การคัดเลือกประธาน ธปท. เนื่องจากนายปรเมธี วิมลศิริ จะสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 11 ก.ย. 2567 นี้ หลังจากนั่งเป็นประธานบอร์ด ธปท. มาจนครบวาระที่ 2 ขณะเดียวกันยังมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 รายที่ครบวาระเช่นกัน คือ นายมนัส แจ่มเวหา และนายนนทิกร กาญจนะจิตรา ซึ่งต้องดำเนินการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเข้าไปเป็นกรรมการแทนด้วยเช่นกัน

โดยคณะกรรมการคัดเลือกจะต้องพิจารณาคัดเลือกจากรายชื่อที่ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการ ธปท. เสนอ ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ รวมทั้งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ สำหรับการดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการ ธปท. ได้แก่ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการเงินการธนาคาร ด้านกฎหมาย ด้านบัญชี และด้านอื่นอันจะเป็นประโยชน์ต่อกิจการของ ธปท.

“กรรมการคัดเลือกจะเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากชื่อที่ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการแบงก์ชาติเสนอ โดยคลังเสนอได้ 1 เท่า และ ธปท. เสนอได้ 2 เท่า อย่างไรก็ดี คงต้องรอให้คณะกรรมการคัดเลือกมีการประชุมกันก่อน หลังจาก รมว.คลัง ลงนามคำสั่งแต่งตั้งไป ขณะนี้อยู่ระหว่างนัดหมายการประชุม ซึ่งคาดว่าน่าจะเร็ว ๆ นี้” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ ประธานกรรมการ ธปท. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะมีวาระดำรงตำแหน่ง คราวละ 3 ปี

ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ อย่างไรก็ดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาระบุว่า ตามกฎแล้วนายกิตติรัตน์น่าจะเป็นไม่ได้ เพราะเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งหากจะไปดำรงตำแหน่งประธานกรรมการแบงก์ชาติ ต้องว่างเว้นจากตำแหน่งก่อน เป็นเวลา 1 ปี