ส่อง 3 หุ้นลีสซิ่ง-จำนำทะเบียน กำไร Q2/67 ยังโตแกร่ง

ผลประกอบการ ลีสซิ่ง

เปิดผลประกอบการ หุ้นลีสซิ่ง จำนำทะเบียน งวดไตรมาส 2/67 TIDLOR กำไร 1,091.4 ล้าบาท ด้าน MTC เติบโต 20% พอร์ตทะลุ 1.5 แสนล้าน ส่วน KTC กำไร 1,826.19 ล้านบาท

วันที่ 11 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มไฟแนนซ์ ทั้งลีสซิ่ง จำนำทะเบียน ได้มีการประกาศผลประกอบการงวดประจำปีไตรมาส 2/2567 ที่สิ้นสุดเมื่อ 30 มิถุนายน 2567 โดยพบว่าหลายบริษัทมีผลประกอบการออกมากำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวมรวบดังต่อไปนี้

TIDLOR กำไรไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 1,091.4 ล้านบาท

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหำชน) หรือ TIDLOR รายงานผลการดำเนินงาน มีกำไรสุทธิสำหรับโตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 1,091.4 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่ง 17.7% (YoY) จาก 927.2 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน และสำหรับหกเดือนแรกของปี บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 2,1955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% (YoY)

การเติบโตในไตรมาส 2 นี้เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีรายได้รวม 5,464.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6% (YoY) จากกายตัวของธุรกิจโดยรายได้หลักมาจากดอกเบี้ยรับจากเงินให้ยืมและละลกหนี้ตามสัญญาเช้าซื้อที่เพิ่มขึ้น 22.0% (YoY) และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น 14.5% (YoY)

ในขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 4,099.1 ล้ามบาท เพิ่มขึ้น 21.8% (YoY) การปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจ ผลขาดทุนด้านเครดิตและต้นทุนทางการเงินที่ปรับขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ช่วงปีก่อนหน้า

Advertisment

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ปรับลดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 53.4%

ส่วนอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL ratio) สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 1.86% ปรับตัวขึ้นจากสิ้นไตรมาส 1/2567 ที่ระดับ 1.60% จากปัจจัยทางเศรษฐกิจและคุณภาพของลูกหนี้หลังการสิ้นสุดมาตราการพักชำระหนี้

Advertisment

ทั้งนี้บริษัทมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเท่ากับ 4,356 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) ที่ 227.3% ปรับตัวลงจากสิ้นไตรมาสก่อนหน้า ที่ระดับ 264.1% แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยการตั้งสำรองเป็นไปตามการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมและคำนึงถึงปัจจัยความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

KTC กำไร Q2/67 ที่ 1,826.19 ล้านบาท โต 1.13%

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าไตรมาส 2/67 มีกำไร 1,826.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,805.83 ล้านบาท ขณะที่ในครึ่งแรกปีนี้มีกำไร 3,629 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 3,678 ล้านบาท

ณ สิ้นไตรมาส 2/67 กลุ่มบริษัทมีมูลค่าพอร์ตรวม 105,803 ล้านบาท เติบโต 0.2% YoY พอร์ตบัตรเครดิตทรงตัวอยู่ในระดับเดิม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรแม้จะยังคงมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น แต่เป็นการใช้จ่ายสำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจึงไม่ได้เติบโตในอัตราเร่ง

ขณะที่พอร์ตสินเชื่อบุคคลขยายตัวเพียงเล็กน้อย จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีสัดส่วนที่สูง ประกอบกับเกณฑ์การอนุมัติที่รัดกุม ทำให้ภาพรวมของพอร์ตกลุ่มบริษัทเติบโตไม่มาก

สำหรับคุณภาพพอร์ตของกลุ่มบริษัทอยู่ในระดับทรงตัวโดยมี NPL รวมอยู่ที่ 1.97% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ซึ่งอยู่ที่ 2.00% ทั้งนี้ระดับของ NPL ของกลุ่มบริษัทยังคงต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ในด้านความเพียงพอของเงินสำรอง กลุ่มบริษัทมี NPL Coverage Ratio อยู่ที่ 363.3% ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

MTC กำไร Q2/67 โต 20% หนุนพอร์ตทะลุ 1.5 แสนล้าน

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 154,672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.43% รายได้รวมอยู่ที่ 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.10% และกำไรสุทธิ 1,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 13,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.35% และกำไรสุทธิ 2,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.85% เทียบช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อน โดยบริษัทมั่นใจว่าเป้าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตกว่า 15-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.88% ซึ่งสามารถบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.20% ภายใต้นโยบายช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพลูกหนี้ รวมถึงการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ