ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มต่อ หลังตลาดกังวลต่อการผลิตจากเวเนฯ-สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ จากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลามีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังผลการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายนิโกลัส มาดูโร ไม่ได้รับการยอมรับจากคนในและนอกประเทศ และนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจใหม่ต่อเวเนซุเอลาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ปรับลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 433.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มราว 1.6 ล้านบาร์เรล สาเหตุหนึ่งมาจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐฯ

+ สหรัฐฯ ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอิหร่าน ตั้งแต่การยกเลิกการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และแรงหนุนเบื้องหลังความไม่สงบในตะวันออกกลาง อาทิ ในซีเรีย เยเมนและเลบานอน โดยสหรัฐฯจะใช้มาตรการสูงสุดเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

-/+ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันบางส่วนหลังนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แจ้งถึงความกังวลเกี่ยวกับนายคิม จอง อึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ว่ายังคงมีจุดประสงค์แอบแฝงในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้การนัดพบที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. ระหว่างสองฝ่ายต้องเลื่อนออกไป

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังคงมีแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นในภูมิภาคโดยเฉพาะจากประเทศอินเดีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียเหนืออ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียยังได้รับแรงหนุนเหลังอุปทานสามารถระบายออกไปยังภูมิภาคอื่นได้

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 69-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 76-81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาผลกระทบจากการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดลงกำลังการผลิต

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือระดับต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐฯ ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง