
บล.เอเซีย พลัส คัดกรองหุ้น 10 อันดับแรก ที่กองทุนวายุภักษ์ถือครองสูงสุด คาดรับ SENTIMENT เชิงบวก หลังกระทรวงการคลังเตรียมแถลงเสนอขายหน่วยลงทุน กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง คาดน่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าระบบราว 1 แสนล้านบาท
วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ ว่า เริ่มมองเห็นสัญญาณบวกที่ปรากฏออกมาในหลายส่วน เริ่มจากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่คาดว่าในปี 2567 จะปรับลดประมาณ 0.75% ซึ่งน่าจะทำให้เงินบาทแข็งค่า ดึงดูดเม็ดเงินไหลกลับเข้ามา ส่วนในบ้านเรามีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินในประเทศเข้ามาขับเคลื่อนผ่านวายุภักษ์ และ THAI ESG
โดยในวันนี้จะมีการแถลงข่าวเรื่องกองทุนวายุภักษ์ สำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณี นายกฯเศรษฐา ในกรณีเลวร้ายคือ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าช่วงเวลาที่จะเกิดสุญญากาศทางการเมือง ก็น่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ประเมินจากการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเข้มแข็ง และก็ไม่น่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายที่สำคัญ แต่หากเป็นกรณีที่ดีคือ นายกฯ ยังอยู่ในตำแหน่ง ก็ถือเป็นผลดีต่อ SET INDEX
ทั้งนี้ ในมุม FUND FLOW ต่างชาติมีโอกาสไหลกลับจากแนวโน้มบาทแข็งค่าในช่วงที่เหลือของปี บวกกับมาตรการการเรียกความเชื่อมั่นจากทางตลาด ค่อยๆ ทยอยออกมาอีก ทั้งยังอาจเห็นแรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์มาช่วยหนุนตลาดอีกแรง โดยทางกระทรวงการคลังนัดแถลง เสนอขายหน่วยลงทุน กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง 13 ส.ค. เวลา 14.00 น.-15.15 น. หวังเป็นกลไกเสริมสร้างการออมและการลงทุนให้กับประชาชนคาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าระบบราว 1 แสนล้านบาท
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหุ้น 10 อันดับแรก ที่กองทุนวายุภักษ์ถือครองสูงสุด น่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวกมากกว่าหุ้นอื่น ๆ คือ PTT, SCB, TTB, BCP, KTB, AOT, ADVANC, GULF, SCC, BDMS
โดยสรุปได้ว่า หวังตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ฟื้น และยืนเหนือ 1,300 จุด จากผลประกอบการที่ดีขึ้นเม็ดเงินจากในและต่างประเทศทยอยเข้ามาหนุน หลังตอบรับปัจจัยลบทางการเมืองมานาน