โบรกฯชี้ไม่ว่าคำตัดสินคดีนายกฯ จะออกมาอย่างไร หุ้นไทยยังมีแนวโน้มดีขึ้น

หุ้นไทย

บล.เอเซียพลัส ชี้ไม่ว่าคำตัดสินคดีถอดถอนนายกฯ จะออกมาอย่างไร ตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มดีขึ้น

วันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า วันนี้เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย “คดีถอดถอนเศรษฐาพ้นนายกฯ” ซึ่งคำตัดสินที่เกิดขึ้นได้มีอยู่ 2 แนวทางหลัก ๆ ดังนี้

1.กรณีนายกฯ ถูกถอดถอน : รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 คือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ แทน ส่วน ครม.สามารถรักษาการต่อได้จนกว่าจะมีนายกฯ คนใหม่ ซึ่งจะจัดให้มีการโหวตเลือกในสภาผู้แทนราษฎรภายใน 45-60 วัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงเวลาที่จะเกิดสุญญากาศทางการเมือง ก็น่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ประเมินจากการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเข้มแข็ง และก็ไม่น่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายที่สำคัญ

2.กรณีนายกฯ ไม่ถูกถอดถอน : จะทำให้การบริหารประเทศ บวกกับขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ยังเป็นไปตามกระบวนการตามปกติ และเดินหน้าต่อเนื่อง

ประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองไทย ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ตลาดรับรู้และถูกกดดันมาตลอดเกือบ 3 เดือนเต็ม ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) ร่วงไปแล้วเฉลี่ยราว 5% จน Underperform กว่าตลาดหุ้นโลก ซึ่งหลังจากนี้ผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นกรณีนายกฯ พ้นตำแหน่ง เชื่อว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีดาวน์ไซด์จำกัด และจะค่อย ๆ ทยอยปรับตัวดีขึ้น หรือกรณีที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไป ก็ถือเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

“สรุปสำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายกฯเศรษฐา ในกรณีเลวร้ายคือ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าช่วงเวลาที่จะเกิดสุญญากาศทางการเมืองก็น่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ประเมินจากการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเข้มแข็ง และก็ไม่น่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายที่สำคัญ แต่หากเป็นกรณีที่ดีคือ นายกฯ ยังอยู่ในตำแหน่ง ก็ถือเป็นผลดีต่อ SET INDEX ขณะที่การดำเนินนโยบายต่าง ๆ ยังเดินหน้าต่อเนื่อง”

ADVERTISMENT