
สภาพัฒน์ เผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2/2567 การลงทุนรวมหดตัว 6.2% ติดลบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส การลงทุนเอกชนติดลบ 6.8% ภาคอสังหาฯลงทุนลดลง 50% กำลังซื้อประชาชนหด-ธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2567 ขยายตัวได้ 2.3% ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดสามารถขยายตัวได้ 2.3-2.8% หรือขยายตัวได้ 2.5% โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ผ่านมาจะขยายตัวได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมาโดยได้รับอานิสงส์ จากการบริโภคเอกชนที่ขยายตัว 4% การบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวได้ 0.3% การส่งออกที่ขยายตัวได้ในไตรมาสนี้ขยายตัวได้ 1.9% และบริการ 19.8%
แต่พบว่าการลงทุนรวมยังหดตัวอยู่ 6.2% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 โดยการลงทุนภาคเอกชนลดลง 6.8% ตามการลดลงของการลงทุนในหมวดเครื่องมือ 8.1% สอดคล้องกับการลดลงของการลงทุนในหมวดยานพาหนะ 22.5% และการชะลอตัวของปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน
ส่วนการลงทุนหมวดก่อสร้างลดลง 2.2% ตามการลดลงของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างอาคารพาณิชย์เป็นสำคัญ ขณะที่การก่อสร้างโรงงานขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐ ลดลง4.3% เทียบกับการลดลง 27.7% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการลงทุนของรัฐบาลลดลง 12.8%
ขณะที่การลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัว 10.1% สำหรับอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 24% (สูงกว่าอัตราเบิกจ่าย 5.7% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 19% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน) รวมครึ่งแรกของปี 2567 การลงทุนรวมลดลง 5.1% โดยการลงทุนภาคเอกชนลดลง 0.9% และการลงทุนภาครัฐลดลง 16.7%
นายดนุชากล่าวว่า ยังมีปัจจัยในเรื่องของการลงทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยการลงทุนในภาคอสังหาฯ ลดลงกว่า 50% ซึ่งมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่ลดลงมาก เนื่องจากขาดสภาพคล่องในการใช้จ่าย รวมทั้งความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารที่มีมากขึ้น จึงต้องมีการใช้มาตรการแก้หนี้แบบพุ่งเป้ามากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าการลงทุนของเอกชนทั้งปีจะขยายตัวได้ประมาณ 0.3% โดยปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าการว่าขยายตัวได้ 3.2% ส่วนการลงทุนภาครัฐ คาดว่าทั้งปีจะหดตัว 0.7% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวจากปีก่อน 1.8% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้การเบิกจ่ายงบฯลงทุนของภาครัฐจะเร่งตัวขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากมีการทำสัญญาผูกพันงบฯรายจ่ายลงทุนไว้แล้ว โดยในขณะนี้การเบิกจ่ายงบฯลงทุนไปได้แล้วประมาณ 1 แสนล้านบาท