กสิกรไทย เตือนไทยตั้งรับกติกาโลกด้าน ESG กระทบจีดีพีไทย 44-45%

พิพิธ เอนกนิธิ
พิพิธ เอนกนิธิ

ธนาคารกสิกรไทย เผยกติกาโลกเปลี่ยน รับเกณฑ์ Climate Chang กระเทือนผู้ส่งออก 65% กระทบจีดีพีไทย 44-45% ชี้ พร้อมวางแผนตั้งรับปล่อยสินเชื่อ-ด้านตราสารหนี้

วันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายพิพิธ เอนกนิธิ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในสัมมนา PRACHACHAT ESG FORUM 2024 Time for Action : พลิกวิกฤตโลกเดือด ในหัวข้อ “Actions for Change” ว่า หากเทียบความเสียหายในช่วงการระบาดของโควิด-19 คิดเป็น 3% ของจีดีพีโลก แต่หากปล่อยให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 3.2 องศาเซียลเซียส ในปี 2593 ความเสียหายทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 18% ของจีดีพีโลก หรือ 6 เท่าของโควิด-19 ซึ่งเป็นความเจ็บปวดเชิงสังคม และสิ่งแวดล้อม

และหากดูในประเทศไทยภายใต้กฎกติกาต่าง ๆ ที่มีอยู่ เช่น CBAM, Chaina Carbon Cross Border คิดเป็นผลกระทบต่อกลุ่มผู้ส่งออกที่มีอยู่ประมาณ 65% จะกระเทือนจีดีพีไทยประมาณ 44-45% ถือว่าเจ็บหนัก

ดังนั้น จากเดิมโมเดลเศรษฐกิจจะวัดด้วยความมั่งคั่ง (Wealth) แต่ต่อไปจะมีเรื่องของ Wellbeing ความสมบูรณ์พูนสุข ซึ่งจากเดิมใครทำธุรกิจได้เท่าไรก็มีกำไร แต่ต่อไปลองหารด้วยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา ใครทำลายสิ่งแวดล้อม โดย Scoring จะออกมาทีหลัง ซึ่งสมการเศรษฐกิจจะเปลี่ยนไป ธุรกิจที่เป็น Brown จะถูก Discount ออกไป และ Green Financing จะค่อย ๆ กลายเป็นบวก

ทั้งนี้ หากดูผลกระทบจากกฎกติกาที่ออกมาใหม่รองรับในเรื่องของ Climate Change จะกระทบกับประเทศไทยอย่างไร ซึ่งจากการประเมินคร่าว ๆ พบว่า ใบอนุญาต (License) ด้านพลังงาน 2,413 ราย จะโดนผลกระทบทั้งหมด โรงงานมีประมาณ 70,000 โรงงาน และในธุรกิจเฉพาะในอุตสาหกรรมเฉพาะราว 10,000 โรงงาน โดยผลกระทบจากมาในรูปแบบ Cap & Trade หรือในเรื่องของ Carbon Tax

และในส่วนของผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็ก จะทำอย่างไร ซึ่งเป็นโจทย์ที่สำคัญมาก หากถ้าดูสินทรัพย์ของธนาคาร 3 ล้านล้านบาท มีลูกค้าเอสเอ็มอีเป็นหลักล้านล้านบาท หากเราไม่ทำอะไร หรือทำอะไรที่เหมือนเดิมที่ผ่านมา ธนาคารจะไม่สามารถเปลี่ยนผ่านหรือช่วยลูกค้ากลุ่มนี้เปลี่ยนผ่านได้ ซึ่งสุดท้ายจะเป็น Ad Risk ของระบบเศรษฐกิจไทยและธนาคารด้วย

ADVERTISMENT

ดังนั้น ธนาคารตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับรัฐบาลในการ Decarbonize ที่ประกาศว่าจะใช้เม็ดเงินเท่าไร โดยหน้าที่ของธนาคารที่เกี่ยวข้องในเรื่องของตราสารหนี้และสินเชื่อ ซึ่งจะต้องวางแผนว่าจะต้องใช้เงินเท่าไรในการช่วย Transition Thailand โดยในปี 2573 คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 4.4 หมื่นบาท ทั้งนี้ ธนาคารจะได้รู้ตัวเอง และเพื่อเตรียมแผนรองรับภาครัฐ และแรงกดดันของประชาคมโลก

“วันนี้แบงก์ ไม่สามารถยืนแค่เป็น Bank ได้ ก็ต้องเป็น Beyond Banking Solution เพื่อช่วยในการเปลี่ยนผ่านได้ทั้งหมด“

ADVERTISMENT