ต่างชาติทิ้งบอนด์ 7 หมื่นล้าน ตัดขาดทุนหนีค่าบาทอ่อน

สมาคมตลาดตราสารหนี้ เผย 4 เดือน ต่างชาติทิ้งบอนด์ไทย 7.7 หมื่นล้าน ยอมตัดขาดทุนบอนด์ระยะสั้นหนีค่าบาทอ่อน

แหล่งข่าวจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง นักลงทุนต่างชาติได้มีการปรับพอร์ตลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์) ไทย โดยเลือกขายบอนด์อายุสั้น (ต่ำกว่า 1 ปี) ออก เพื่อหนีผลกระทบจากการขาดทุนค่าเงินบาทอ่อน โดยต่างชาติเริ่มขายตลอดเดือน ก.พ.ถึง 21 พ.ค. (ราว 4 เดือนที่ผ่านมา) มียอดขายสุทธิในบอนด์ไทยราว 7.7 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดคงค้างต่างชาติถือบอนด์ไทยอยู่ที่ 8.28 แสนล้านบาท โดยบอนด์ระยะสั้นเหลืออยู่ประมาณ 1.05 แสนล้านบาทและบอนด์ระยะยาว 7.23 แสนล้านบาท

“เรามองว่าการปรับพอร์ตของต่างชาติน่าจะพอแล้ว หลังจากเดือน ม.ค.ซื้อสุทธิเยอะ แต่เดือน ก.พ.ขายสุทธิจนถึงตอนนี้ ปัจจัยหลัก ๆ ก็มาจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่า (เงินบาทอ่อนตัว) ทำให้ต่างชาติเลยรีบขาย (บอนด์) ตัวที่ให้ผลตอบแทนต่ำและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนออกไปก่อน ซึ่งเป็นการคัตลอส (ตัดขาดทุน) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบอนด์อายุสั้น แต่ยังถือบอนด์ยาวอยู่ เพราะยังมองว่า ถ้าเงินดอลลาร์อ่อน (บาทแข็งขึ้น) ก็อาจจะกลับมาซื้อบอนด์เราใหม่” แหล่งข่าวกล่าว

ขณะที่นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ปีนี้ กบข.จะมีการปรับพอร์ตลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนพันธบัตร (บอนด์) จากเดิมพอร์ตถือบอนด์มีอายุเฉลี่ยเกิน 3.5 ปี จะหันมาหาบอนด์ระยะสั้นมากขึ้น น่าจะมีอายุเฉลี่ย 2.1 ปี ในพอร์ตบอนด์ เนื่องจากในระยะข้างหน้าดอกเบี้ยของไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยโลก ถึงแม้ว่าปีนี้คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นก็ตาม

“เราเริ่มทยอยปรับพอร์ตมาแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นเมื่อต้น พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนบอนด์ในไทยถึง 60% ดังนั้น กบข.จึงต้องปรับตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยภาพรวมการลงทุนของ กบข.ในปีนี้ เราคาดว่าผลตอบแทนโดยรวมน่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 6.43% เพราะมีความเสี่ยงจากการลงทุนในบอนด์และหุ้นเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ได้มีการปิดความเสี่ยงค่าเงินเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากมีพอร์ตที่ลงทุนในต่างประเทศ” นายวิทัยกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันพอร์ตลงทุนส่วนของสมาชิก กบข.มีมูลค่า 3.9 แสนล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในบอนด์ไทยและต่างประเทศ 64% ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 14% หุ้นไทย 8% อสังหาฯ 4%