กระทรวงพาณิชย์ เผย ส่งออกเดือน ก.ค. 67 โตพุ่ง 15% YOY วันนี้ดันบรรยากาศหุ้นส่งออกเขียวยกแผง “บล.เอเซีย พลัส” ชี้ไตรมาส 3/67 เห็นกำไรพีกรับฤดูกาลส่งออก คงแนะนำซื้อ 4 หุ้นส่งออก
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ส.ค. 2567) ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นยกแผง ประกอบด้วย ITC +3.54%, TU +1.32%, CPF +2.04%, GFPT +2.46%, TFG +1.78%, NER +3.33%, STA +3.24%, STANLY +0.95%, MCS +2.80%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออกไทย เดือน ก.ค. 2567 เติบโต 15.2% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ขยายตัวมากสุดในรอบ 2 ปี ทำให้การส่งออก 7 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 3.8% ส่วนเป้าหมายตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าการส่งออกไทยจะขยายตัวบริเวณกรอบบนที่ 2%
โดยสินค้าเกษตร-อาหาร เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง, ทูน่า, กระป๋อง และไก่ ยังขยายตัวทั้งเดือนก่อนหน้า (MOM) และ (YOY) มีรายละเอียดรายกลุ่มดังนี้
1.กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงประเภทอาหารแมว/สุนัข มีมูลค่าส่งออก 238.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 13% MOM และ 32% YOY โดยในเชิง YOY เป็นการเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ทำให้ 7 เดือนปีนี้ มูลค่ารวม 1,521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+34% YOY)
2.กลุ่มอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป มีมูลค่าส่งออก 341.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตราใกล้เคียงกันระดับ 20% MOM และ YOY หนุนจากทูน่ากระป๋องส่งออก 212.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 22.6% MOM และ 35% YOY (ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7) และ 7 เดือน ส่งออกทูน่ากระป๋องรวม 1,294 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+18% YOY)
3.กลุ่มไก่ ส่งออกรวมมูลค่า 371 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+11% MOM, +13.6% YOY) มาจากไก่แช่แข็งแช่เย็นเพิ่มขึ้น 15% MOM และ 16.5% YOY เท่ากับ 114.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไก่แปรรูป คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% (เป็นสินค้าหลักของ GFPT และ CPF) เพิ่มขึ้น ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในระดับ 12% YOY และ 9% MOM สำหรับ 7 เดือน มูลค่าส่งออกไก่รวมเท่ากับ 2,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+4.6% YOY) จากกลุ่มไก่แปรรูป (+7% YOY) และไก่แช่แข็งแช่เย็น (-0.8% YOY)
แม้ดุลการค้าจะขาดดุล 1,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การนำเข้าที่ขยายตัวสูง โดยการนำเข้าเดือน ก.ค. 2567 เติบโต 13.1% YOY ทำให้ยอดนำเข้า 7 เดือน เติบโต 14.4% YOY ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป 17.8% YOY (มีสัดส่วน 40.97%) คาดช่วยหนุนให้ปริมาณการผลิตในช่วงที่เหลือของปีสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยมองว่า การเติบโตทั้ง YOY และ MOM ของการส่งออกเดือน ก.ค. 2567 (ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ) สร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตร และอาหารภายใต้ฝ่ายวิจัยศึกษา 4 บริษัท ได้แก่ ITC (อาหารสัตว์เลี้ยงกลุ่มแมว/สุนัข), TU (ทูน่ากระป๋อง), CPF และ GFPT (ไก่) คาดเห็นผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ซึ่งปกติถือเป็นช่วงพีก หนุนจากฤดูกาลส่งออกยังมีทิศทางดี และคงแนะนำ Outperform ดังนี้
1. ITC ราคาเป้าหมาย 29 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/2567 จะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง YOY โดยได้รับแรงหนุนจากออร์เดอร์ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดส่งออกข้างต้น แต่ในเชิง QOQ เบื้องต้นประเมินกำไรมีโอกาสทรงตัวหรืออ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับในไตรมาสก่อน เนื่องจากเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมราคาโรงงานใหม่เข้ามาเต็มไตรมาส รวมถึงการปรับลงของราคาขาย สะท้อนต้นทุนราคาปลาทูน่าที่ลดลง คาดส่งผลให้มาร์จิ้นอ่อนตัวจากงวดไตรมาส 2/2567 ที่มีฐานสูงกว่าปกติ
2. TU ราคาเป้าหมาย 19 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 3/2567 เติบโต YOY และ QOQ หนุนจากคำสั่งซื้อในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงอาหารทะเลแปรรูปกระป๋องที่มีดีมานด์เพิ่มจากอเมริกาและตะวันออกกลาง รวมถึงคาดหวังการฟื้นตัวในยุโรป หลังช่วงไตรมาส 2/2567 เจอปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ทำให้เกิดการขนส่งล่าช้า คาดบางส่วนถูกโยกมายังไตรมาส 3/2567
ด้านมาร์จิ้นมีโอกาสเพิ่มจากไตรมาส 2/2567 และไตรมาส 3/2566 ขับเคลื่อนจากอาหารทะเลแปรรูปที่ยังได้ประโยชน์จากสต๊อกต้นทุนปลาที่อยู่ระดับต่ำ และอาหารทะเลแช่แข็งแช่เย็น เข้ามาชดเชยมาร์จิ้นอาหารสัตว์เลี้ยงที่อาจอ่อนตัว ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมดีขึ้น โดยเฉพาะจาก AVANTI ที่เข้าสู่ช่วงฤดูกาล
3. CPF ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท ทิศทางกำไรมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 3/2567 จากราคาเนื้อสัตว์ล่าสุดยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 โดยปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลส่งออก ช่วยให้ราคาไก่ในไทยยืนสูงต่อเนื่องอยู่ที่ 44 บาท/กก. ขณะที่ ราคาสุกรในไทยขยับขึ้นจากเฉลี่ย 67 บาท/กก. ในไตรมาส 2/2567 มาเป็น 74 บาท/กก. ณ ปัจจุบัน เช่นเดียวกับราคาสุกรในต่างประเทศยังมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในจีนจากผลกระทบโรค ASF ทำให้ปริมาณอุปทานไม่สมดุลกับอุปสงค์เข้ามาช่วยดันราคาเนื้อสัตว์สูงกว่าระดับต้นทุนการเลี้ยงให้มีกรอบกว้างมากขึ้น ย่อมส่งผลบวกต่อทิศทางมาร์จิ้นและหนุนกำไรปกติไตรมาส 3/2567
4. GFPT ราคาเป้าหมาย 16.40 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 3/2567 ยังเติบโต YOY หนุนจากปริมาณส่งออก แต่ในเชิง QOQ มีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจากปริมาณส่งออกไตรมาส 2/2567 ที่สูงกว่าปกติ ส่วนหนึ่งมาจากการเร่งสั่งซื้อสินค้าเร็วขึ้นของกลุ่มลูกค้ายุโรป และสถานการณ์การสั่งซื้อปัจจุบันเริ่มสู่ภาวะปกติ ทำให้ปริมาณส่งออกกลุ่มยุโรป อาจไม่สูงเท่างวดก่อน
ขณะที่ฝั่งเอเชีย นำโดยญี่ปุ่นและจีน คาดมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้บริษัทคาดปริมาณส่งออกไก่ไตรมาส 3/2567 อาจอ่อนตัวจากงวดก่อนได้ (แต่ยังเพิ่มจากปีก่อน) สำหรับฝั่งวัตถุดิบแม้ราคาข้าวโพดล่าสุดขยับขึ้นมาอยู่บริเวณ 12-12.5 บาท/กก. (จากไตรมาส 2/2567 เฉลี่ย 11 บาท/กก.) แต่พอชดเชยกับราคากากถั่วเหลืองลง มาเฉลี่ย 20 บาท/กก. (เทียบกับไตรมาส 2/2567 เฉลี่ย 21 บาท/กก.) และราคาดังกล่าวคาดเริ่มสะท้อนในต้นทุนบางส่วนช่วงปลายไตรมาส 3/2567 หรือต้นไตรมาส 4/2567 เนื่องจากยังมีสต๊อกที่มีต้นทุนต่ำอยู่ ทำให้มาร์จิ้นพอใกล้เคียงงวดก่อน (แต่ดีขึ้น YOY)