บาททรงตัว จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

ธนบัตร แบงก์

บาททรงตัว จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักถึง 100% ที่เฟดจะปรับลดดอกบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2567 ค่าเงินบาทเปิตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.0607 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (26/8) ที่ระดับ 33.97/98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจัยหลักมาจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลส่งเครื่องบินรบกว่า 100 ลำเข้าไปโจมตีกลุ่มอิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเมื่อวันอาทิตย์ (25/8) ส่งผลให้กลุ่มอิซบอลเลาะห์สนับสนุนโดยอิหร่านยิงจรวดโต้กลับกว่า 320 ลูกถล่มดินแดนอิสราเอล

โดยการโจมตีครั้งนี้เป็นการโต้กลับของกลุ่มอิซบอลเลาะห์หลังจากอิสราเอลลอบสังหารนายฟูอัด ชูกร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิซบอลเลาะห์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ตลาดยังคงจับตาข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ตามดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวแข็งค่าไม่มากนักเนื่องจากบรรดานักลงทุนยังคงซึมซับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุมระหว่างธนาคารกลางต่าง ๆ ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ (23/8) ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง โดยนักลงทุนเฝ้าจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือน ก.ค.ของสหรัฐ ในวันศุกร์ (30/8) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากดัชนีนี้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในเดือน ก.ค. ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งนับรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือน มิ.ย.และดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี เทียบกับเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 2.6%

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักถึง 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. โดยนักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00%-5.25%

สำหรับปัจจัยภายในประเทศวันนี้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลดุลการค้าจากศุลกากรเดือน ก.ค. ขาดดุล 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขาดดุลอยู่ 0.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดส่งออกจากศุลกากรขยายตัวขึ้น 15.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.0% และมากกว่าเดือน มิ.ย. ที่ปรับตัวลดลง 0.3% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 และยอดนำเข้าจากศุลกากรปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.0% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.8% และมากกว่าเดือน มิ.ย. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%

ADVERTISMENT

ทั้งนี้นักลงทุนยังคงจับตารายงานยอดการส่งออกและนำเข้าของไทยเดือน ก.ย. ในวันศุกร์ (30/8) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดการส่งออกของไทยอาจจะสามารถโตได้ประมาณ 5% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.02-34.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.09/10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/8) ที่ระดับ 1.1164/66 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (26/8) ที่ระดับ 1.1182/84 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ โดยไร้ปัจจัยสนับสนุนใหม่ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.1160-1.1173 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1172/73 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/8) ที่ระดับ 144.50/51 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (26/8) ที่ระดับ 143.93/94 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยวันนี้นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นผ่านหลายช่องทาง รัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 144.44-145/17 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 145.00/01 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. ของสหรัฐ (27/8), ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค. ของออสเตรเลีย (28/8), ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค. ของเยอรมนี (29/8), ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 2 ของสหรัฐ (29/8), จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (29/8), ดุลการค้าไทยเดือน ก.ค. (30/8), ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ส.ค. ของยูโรโซน (30/8), ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลเดือน ก.ค. ของสหรัฐ (30/8) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือน ก.ค. ของจีน (31/8)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -9.0/-8.7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -8.7/-7.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ