
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น “เสริมสุข” อนุมัติการเพิกถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้นไทย ด้วยมติเสียง 97.4170% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 นายกฤษณ์ จุลพาณิชยกรรม เลขานุการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
ซึ่งที่ประชุมมีมติอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้น SSC ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 259,032,373 เสียง คิดเป็น 97.4170% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
ในการนี้ บริษัทจะดำเนินการยื่นแบบคำขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน (F10-7) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และเมื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทได้รับการอนุมัติและ/หรือผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจากตลาดหลักทรัพย์ฯ สถาบันการเงิน และ/หรือคู่สัญญาอื่น ๆ ตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีที่จำเป็น) แล้ว ผู้ทำคำเสนอซื้อจะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดของบริษัทเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระและกรรมการอิสระต่อข้อเสนอของผู้ทำคำเสนอซื้อ และที่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (วาระนี้เป็นวาระเพื่อรับทราบจึงไม่มีการลงคะแนนเสียง)
ก่อนหน้านี้ เสริมสุขได้แจ้งเหตุผลในการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะช่วยให้การบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากการลดขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารกิจการและการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น
และนอกจากนี้ เนื่องด้วยกลุ่มไทยเบฟอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยอาจมีการดำเนินการปรับโครงสร้างภายในและการปรับโครงสร้างของธุรกิจในด้านต่าง ๆ (ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สินหรือสิทธิต่าง ๆ การควบรวมกิจการ
การโอนสิทธิตามสัญญาทางการเงิน การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน ตลอดจนการระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น)
โดยที่การปรับโครงสร้างดังกล่าวอาจประกอบด้วยการทำรายการหรือธุรกรรมระหว่างบริษัท และหรือบริษัทในกลุ่มไทยเบฟ ดังนั้น การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะช่วยเพิ่ม
ความคล่องตัวในการบริหารจัดการของบริษัทและเป็นการรองรับแผนการปรับโครงสร้างข้างต้นด้วย ทั้งนี้ แผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน และอาจมีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมในอนาคต
เนื่องจากในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีจำนวนไม่มากนัก การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท
2. เนื่องจากในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีจำนวนไม่มากนัก การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท
3. เนื่องจากภายหลังการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท บริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกต่อไป การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม และหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนด้วย
อย่างไรก็ดี ภายหลังการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะยังมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และจะยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการดำเนินการตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อไป