
นักลงทุน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก แห่เข้าร่วมงาน Thailand Focus 2024 ด้าน “ภากร” ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย มั่นใจ SET INDEX กลับสู่ขาขึ้นได้ จากเศรษฐกิจฟื้นตัว กำไร บจ.โตสูงสุดตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด การเมืองคลี่คลาย เป็น Turning Point สำคัญ ในจังหวะความไม่แน่นอนในประเทศลดน้อยลงมากที่สุด “ศรพล” คาดกำไรครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งปีแรก ดึงเงินทุนต่างชาติไหลกลับ ฟาก “พรอนงค์” เลขา ก.ล.ต. กางปัจจัย “หุ้นไทยยังมีเสน่ห์”
วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า งาน Thailand Focus ถือเป็นงานแฟลกชิปของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในปี 2567 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด “Adapting to a Changing World” ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพการลงทุนในไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกเข้าร่วมงาน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก ซึ่งใกล้เคียงกับการจัดงานเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านั้น
และในจำนวนนี้มีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก โดยส่วนใหญ่มาจาก สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และสวีเดน ซึ่งมีทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และนักลงทุนหน้าเก่าที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน รับฟังความพร้อมและศักยภาพของภาครัฐ เอกชน ตลาดทุน และเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะหนุนความเชื่อมั่นและดึงดูดความสนใจลงทุนในประเทศไทย โดยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งธุรกิจและทิศทางการเติบโต
“ภากร” มั่นใจตลาดหุ้นไทยกลับสู่ขาขึ้น
“ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ความไม่แน่นอนในประเทศลดน้อยลง โดยจะเห็นความชัดเจนทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น และทิศทางความมั่นคงทางการเมืองก็มีความแน่นอนขึ้น ภาคท่องเที่ยวที่โตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทจดทะเบียนไทยมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งนี่คือปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้จะเห็นดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) จะมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งการฟื้นตัวรอบนี้จะเป็นครั้งที่ความไม่แน่นอนในประเทศน้อยที่สุด จึงมีความมั่นใจมากว่าจะมีความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยกลับมา จากช่วงก่อนที่จะฟื้นตัวได้แล้ว 2-3 ครั้ง โดยความเสี่ยงที่จะกระทบในรอบนี้คงจะเป็นปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก” นายภากร กล่าว
กำไร 6 เดือนแรก โตสูงสุดตั้งแต่วิกฤตโควิด
โดยจะเห็นว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทยช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2567) ที่ประกาศออกมา บริษัทใน SET มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 519,312 ล้านบาท เติบโต 9.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) และบางเซ็กเตอร์มีกำไรเติบโตมากกว่า 10% ซึ่งกำไรบริษัทจดทะเบียนรอบนี้ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตหลักคือ ธุรกิจอาหาร, เฮลท์แคร์, พลังงาน, การบริโภคที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่ามาในจังหวะที่ดีมาก เพราะฉะนั้นมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีโอกาสได้ให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นเชื่อว่าช่วงที่เหลือของปีจะดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) กลับเข้ามาได้ เพราะความน่าสนใจของตลาดทุนไทยเริ่มมีมากขึ้น
“สำหรับภารกิจหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น มีความเข้มแข็งขึ้น สามารถระดมทุนได้มากขึ้น และนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในตลาดทุนไทยได้ทั้งผลิตภัณฑ์ในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์”
Turning Point สำคัญ “GDP-กำไร บจ.”
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและหัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เราอยู่ในจุด Turning Point ที่สำคัญของทั้งการเติบโตตัวเลขเศรษฐกิจไทย (GDP) และมีมาตรการกำกับดูแลต่าง ๆ ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนมากขึ้น ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ที่จะเติบโตดีขึ้นชัดเจนและจะต่อเนื่องได้ช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมไปถึงไทมิ่งที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE) ที่ไม่สูงจะหนุนให้ตลาดหุ้นมีความคึกคัก และอยู่ในช่วงเดียวกับที่รัฐบาลให้นโยบายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG)
ประเมินกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ตามการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจไทย (GDP) ซึ่งโดยปกติกำไรบริษัทจดทะเบียนมักจะโตได้สูงกว่าตัวเลข GDP ไทยในระดับ 2-3 เท่า และคาดการณ์ว่าตัวเลข GDP ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะดีกว่าครึ่งปีแรก หรือเติบโตได้กว่า 3% ขึ้นไป จากช่วงไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 2/25567 ที่ตัวเลข GDP ไทยเติบโตในระดับ 1.5% และ 2.3% (ตามลำดับ)
“ทั้งนี้การที่ตัวเลข GDP จะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้นั้น ส่วนหนึ่งจะมาจากกิจกรรมของบริษัทจดทะเบียน จึงมองว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก” ดร.ศรพล กล่าว
ฟันด์โฟลว์จ่อไหลเข้าไทย
ส่วนสถานการณ์เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเริ่มเห็นกลับเข้ามาแล้วในตลาดตราสารหนี้ไทย อย่างไรก็ดีคาดว่าหลังจากงาน Thailand Focus 2024 น่าจะเห็นฟันด์โฟลว์ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จากสัญญาณทั้งตัวเลข GDP ไทย และกำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 2/2567 ที่เติบโตชัดเจน บริษัทใน SET มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 519,312 ล้านบาท เติบโต 9.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)
ทั้งนี้หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการลดดอกเบี้ยนโยบาย จะมีผลต่อเม็ดเงินลงทุนโยกเข้ามาในตลาดประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) รวมถึงประเทศไทยด้วย
เลขา ก.ล.ต. กางปัจจัย “หุ้นไทยยังมีเสน่ห์”
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดงานอีเวนต์ Thailand Focus ในปีนี้จะเป็นการสื่อสารถึงนักลงทุนต่างชาติ ให้เห็นถึงพัฒนาการตลาดหุ้นไทยและตลาดทุนไทยที่ยังมีเสน่ห์อยู่อีกมาก โดยเฉพาะการนำเสนอข้อมูลด้านนโยบายของรัฐบาลและทิศทางตลาดทุนไทยที่กำลังจะเดินต่อไป
โดยหนึ่งในนโยบายสำคัญของภาครัฐคือ Ignite Thailand ตามที่คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงในหลายมิติ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่จะเปิดโอกาสของการสร้างเม็ดเงินลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านตลาดทุนไทย
อย่างไรก็ดีคงไม่ได้ต้องการเฉพาะเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเท่านั้น โดยพันธกิจหนึ่งของสำนักงาน ก.ล.ต. คือ การสร้างการ กินดี อยู่ดี ทางการเงิน ให้กับประชาชนคนไทย ซึ่งการสร้างการลงทุนในระยะยาวที่จะเห็นการสนับสนุนในปีนี้คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ที่ปรับเกณฑ์ใหม่เพิ่มการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 3 แสนบาท และปรับระยะเวลาถือครองลดลงเหลือ 5 ปี
นอกจากนี้ในเดือน ก.ย. 2567 กองทุนวายุภักษ์ จะเปิดให้ซื้อขายหน่วยลงทุน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ถ้าต่อจิ๊กซอว์เข้าด้วยกัน จะเห็นภาพความไร้รอยต่อ (Seamless) ในการเคลื่อนตลาดทุนไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกันการกำกับดูแลตลาดทุนไทย ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้มาตรการ เช่น Uptick Rule หรือที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. อย่างมาตรการ Dynamic Price Band และ Minimum Resting Time ซึ่งเป็นการหยิบมาตรการที่ศึกษามาแล้วว่า ถ้าจะชะลอการยกเลิกคำสั่ง ต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับบริบทของตลาดทุนไทย และพอบริบทของตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนไป มีความเชื่อมั่นกลับมา สามารถสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนไทยได้ กลไกเหล่านี้ก็สามารถจะปรับเปลี่ยนได้