เผ่าภูมิ ยันปรับเงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาทแจกกลุ่มบัตรสวัสดิการ ไม่ซ้ำซ้อน ชี้ “เม็ดเงิน-วิธีการ” ต่างกัน

digitalwallet

เผ่าภูมิ รมช.คลัง ยันปรับเงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท แจกกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน 14 ล้านคน ก.ย.นี้ ยันคนเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ชี้ไม่ได้แจกซ้ำซ้อน เม็ดเงิน-วิธีการ

วันที่ 29 สิงหาคม 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ว่าจะมีการหารือกันในรายละเอียด ว่าในชุดเงินก้อนแรกในช่วงที่จะมีการแจกในช่วงเดือนกันยายน 2567 ควรจะเป็นกลุ่มไหนก่อน ซึ่งอยู่ในกระบวนการ อาจจะมีการพิจารณาในกลุ่มที่มีความจําเป็นสูงกว่า โดยอาจจะใส่เม็ดเงินลงไปได้เลยทันที

“มีความเป็นไปได้สูงที่จะแจกกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือน ก.ย. 2567 โดยขณะนี้รายละเอียดยังอยู่ระหว่างการพิจารณา จึงอยากให้รอความชัดเจนจากการแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน แต่ก็อยากให้ภาพว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้มีมาตรการที่พี่น้องประชาชนพึงพอใจ โดยยืนยันว่ากลุ่มบัตรคนจนเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะข้อมูลของกลุ่มเปราะบางนั้นรัฐบาลมีอยู่แล้ว และสามารถส่งเงินไปได้ตรง” รมช.คลังกล่าว

นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า โครงการดิจิทัลวอลเลตถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ หมายความว่า หากจะมีการปรับเงื่อนไขก็ต้องทำให้ตรงกับสถานการณ์มากขึ้นในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าอะไรสามารถกระตุ้นได้ก่อนก็ทำก่อน อะไรที่อาจจะเป็นระยะกลางก็ต้องกระตุ้นในระยะกลาง ดังนั้น รัฐบาลก็อาจจะมีการปรับเงื่อนไขของโครงการ เพื่อให้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจ สะท้อนความจำเป็น และสะท้อนกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น

โดยโครงการนี้เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ดังนั้น การจะทำให้โครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ก็ต้องมีการหารือกับพรรคร่วม ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการหารือ พูดคุยกันอยู่ว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี ดังนั้น จึงอยากให้รอความชัดเจนจากการแถลงนโยบายน่าจะเหมาะสมกว่า

สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการจ่ายเงินในโครงการดิจิทัลวอลเลตผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเป็นการดำเนินการที่ซ้ำซ้อนกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ นายเผ่าภูมิระบุว่า ยืนยันว่าไม่ซ้ำซ้อน เป็นคนละมาตรการ ไม่เกี่ยวกัน เพียงแต่อาจจะใช้ช่องทางที่เชื่อมโยงกัน แต่ถามว่าตัวเม็ดเงิน วิธีการในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นเป็นคนละแบบ

ADVERTISMENT

ดังนั้น ทั้ง 2 โครงการนี้จึงไม่ใช่โครงการที่ซ้ำซ้อนกันอย่างแน่นอน โดยโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ประชาชนก็จะยังได้รับสวัสดิการตามปกติ เหมือนเดิม ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไร ส่วนในระยะต่อไปหากรัฐบาลมีงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือมีพี่น้องประชาชนลำบากมากขึ้น ก็อาจจะมีการเพิ่มสวัสดิการขึ้นเรื่อย ๆ

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราว 13-14 ล้านคน

ADVERTISMENT