
เงินบาททรงตัว จับตาตัวเลขเศรษฐกิจปลายสัปดาห์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 33.99/34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (29/8) ที่ระดับ 34.0/02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (28/8) ที่ระดับ 34.98/34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
คืนที่ผ่านมาตลาดยังไร้ปัจจัยทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยนักลงทุนจับตาดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคและครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ค. จากระดับ 0.1% ในเดือน มิ.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดืนอ ก.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือน มิ.ย.
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้านี้ (29/8) ที่ระดับ 144.53/54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (28/8) ที่ 144.45/144.46 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนญี่ปุ่นทรงตัวในวันนี้หลังจากที่แข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์
โดยเงินเยนได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกในปีนี้ หลังจากมีสัญญาณ hawkish จากเจ้าหน้าที่ BOJ แต่ข้อมูลเงินเฟ้อจากประเทศกลับต่ำกว่าที่ BOJ คาดหวังว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของโตเกียวในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 144.52-144.75 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 144.72/73 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ด้านปัจจัยภายในประเทศ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะแยกกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13-14 ล้านคน เป็นกลุ่มแรกในช่วงเดือน ก.ย. 2567 ทั้งนี้ โครงการดิจิทัลวอลเลตจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เหมาะสมไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป รวมทั้งยังต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการเดินหน้านโยบายต่อไป
โดยเบื้องต้น การแจกเงินจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก่อน ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับเงินก่อน ส่วนกลุ่มที่สองคือ กลุ่มทั่วไปที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไว้ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ซึ่งจะปิดลงทะเบียนในวันที่ 15 ก.ย. 2567
ทั้งนี้ การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน ไม่ได้เป็นการแจกเงินซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นคนละโครงการกัน และเป็นวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นคนละแบบ ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นโครงการที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งต้องปิดให้บริการ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลง 57,092 คน มูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยวหายไป 491 ล้านบาท จ้างงานลดลง 628 คน มูลค่าการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวหายไป 200 ล้านบาท รายได้จากภาษีที่รัฐได้รับหายไป 24 ล้านบาท
ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.96-34.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.99/34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (29/8) ที่ระดับ 1.1129/30 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (28/8) ที่ 1.1126/27 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฝรั่งเศสอยู่ที่ระดับ 92 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์
นอกจากนี้ ยูโรโซนจะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุมในเดือน ก.ย. ซึ่งตลาดคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1076-1.1136 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1088/89 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 2 ของสหรัฐ (29/8), จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (29/8), ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ส.ค. ของยูโรโซน (30/8), ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลเดือน ก.ค.ของสหรัฐ (30/8) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือน ก.ค. ของจีน (31/8)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap Point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -8.5/-8.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -8.75/-7.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ