เปิดข้อมูลต้องรู้ ! เกี่ยวกับโอกาส-ความท้าทาย “รถยนต์ไฟฟ้า-ประกัน EV”

EV

เปิดข้อมูลต้องรู้ ! เกี่ยวกับโอกาส-ความท้าทาย “รถยนต์ไฟฟ้า-ประกันรถ EV”

วันที่ 5 กันยายน 2567 ดร.ปิยวดี โขวิฑูรกิจ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA) สรุปประเด็นจากเสวนา “รถยนต์ไฟฟ้าและประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า โอกาสและความท้าทาย เพื่อก้าวสู่จุดหมายร่วมกัน” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2567 ว่า

  1. จีนมีรถไฟฟ้าประมาณ 40%
  2. เป้าหมายของไทยอยู่ที่ 30% ในปี 2030 ขณะนี้อยู่ประมาณ 13-14%
  3. ไทยมีรถมากกว่า 80% ของอาเซียน
  4. ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญในการ drive การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า
  5. ในมุมของประกันภัย รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่ ยังไม่มีสถิติที่เพียงพอรองรับ ธุรกิจจึงต้องเรียนรู้ทั้งการรับประกันภัย การจัดการสินไหม และการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยง
  6. ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าต้องเข้าศูนย์หมด ต่างจากรถน้ำมันที่สามารถซ่อมได้หลากหลายกว่า
  7. กรมธรรม์ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ถูกจัดทำขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นการเฉพาะ โดยอ้างอิงจากกรมธรรม์รถยนต์ที่มีอยู่เดิม การทำความเข้าใจและสื่อสารกับผู้เอาประกันภัยจะได้ง่าย
  8. จุดที่เน้นคือ ผู้ขายที่ต้องให้รายละเอียดในกรมธรรม์ให้ครบถ้วน เช่น กรมธรรม์ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่
  9. ในภาพรวม หลังจากประกาศใช้กรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้ามา 4-5 เดือน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี
  10. สมาคมได้ศึกษากรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะราคาอะไหล่ ซึ่งพบว่าอะไหล่ของหลายยี่ห้อแพงกว่ารถสันดาป 4-5 เท่า และเป็นชิ้นส่วนที่ถูกใช้งานบ่อย
  11. ช่วงนี้คือเวลาในการเก็บสถิติ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ การกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยก็จะแม่นยำขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา
  12. การแข่งขันที่รุนแรงระหว่างค่ายรถไฟฟ้า จะทำให้กลไกด้านราคามีความเหมาะสมและสมดุลมากขึ้น ราคารถยนต์จะถูกลง
  13. ช่างที่ศูนย์ซ่อมต้องมีการพัฒนาความรู้ในการซ่อมตามไปด้วย
  14. รถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 140,000 คัน แต่ชุดชาร์จมีอยู่ประมาณ 5,000 จุด จึงยังถือเป็นอุปสรรคในการเติบโต แต่ ปตท.พยายามขยายการให้บริการด้านนี้
  15. ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือสอง แม้จะตกลงมาก แต่เราควรดูควบคู่กันว่าเราประหยัดเงินค่าน้ำมันไปเท่าไหร่ในเวลาที่ผ่านมาด้วย
  16. มีการผลิตรถไฟฟ้า 7 แห่งในประเทศไทย รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่ด้วย ปัญหาเรื่องราคาแบตเตอรี่จะเบาบางลงในอนาคต และมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย
  17. หากต้องนำเข้าอะไหล่จะราคาแพง ฐานการผลิตที่จะย้ายเข้ามาในอาเซียน จะช่วยให้อะไหล่ราคาถูกลงได้
  18. ตอนนี้มีกรมธรรม์เฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคล กรมธรรม์สำหรับรถยนต์ประเภทอื่นจะทยอยตามมา
  19. การระบุชื่อผู้ขับขี่สำหรับรถยนต์สันดาป จะถูกนำมาใช้กับรถยนต์สันดาปใหม่ในอนาคต คาดว่าจะเริ่มได้ 1 มกราคม 2568
  20. เราต้องทำความเข้าใจรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เช่น ประเด็นรถยนต์ไฟฟ้ากับเรื่องน้ำท่วมที่กลไกการทำงานไม่เหมือนกัน การรับประกันแบตเตอรี่ตลอดชีวิตเพื่อให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
  21. ยิ่งจำนวนผู้เอาประกันภัยมีมากขึ้น ความสามารถในการพยากรณ์ก็จะดีขึ้น ในระยะแรก จึงอาจต้องมีการเผื่อความเสี่ยงไว้ในเบี้ยประกันภัยในระยะแรก
  22. การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะดีมากขึ้น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี สถานีชาร์จและเทคโนโลยีในการชาร์จจะพัฒนาดีกว่าเดิมมาก
  23. รถยนต์ไฟฟ้าจะฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
  24. บริษัทประกันภัยและสมาคมประกันวินาศภัยไทยสนับสนุนเต็มที่ให้เกิดกลไกตลาดที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
  25. การกำจัดแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประเด็นที่สมาคมรถยนต์ไฟฟ้า กำลังหารือกับภาครัฐอยู่ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม ถ้าสามารถผลิตเองได้และกำจัดเองได้ภายในประเทศ ก็จะสามารถจัดการได้อย่างครบวงจร
  26. บริษัทประกันภัยควรต้องคุยกับผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าก่อนที่จะรับประกันภัย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน และสามารถกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยที่สะท้อนถึงความเสี่ยงได้ครอบคลุม ความล่าช้าของอะไหล่จะทำให้การจ่ายค่าขาดประโยชน์สูงตามไปด้วย
  27. ถ้าอะไหล่แพงมากและรอนาน ต่อไปลูกค้าก็จะไม่เลือก จึงควรมีการสื่อสารเรื่องเหล่านี้ให้ผู้บริโภคทราบด้วย
  28. บริษัทประกันภัยต้องมีการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นการเฉพาะ แม้จะเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่เหมือนกัน แต่รถยนต์ไฟฟ้าต่างจากโควิด จึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเดิม
  29. ต้องทำการบ้านเพิ่ม เพื่อให้รู้ว่าราคารถยนต์มือสองควรเป็นเท่าไหร่
  30. ทุนประกันภัยลดลง แต่ค่าอะไหล่ไม่ได้ลด จึงทำให้เบี้ยประกันภัยไม่ลดลง แม้ราคารถยนต์ใหม่จะลดลงก็ตาม
  31. เมื่อไม่สามารถควบคุมเรื่องอะไหล่ช้า อะไหล่ไม่มี ช่างไม่มี ศูนย์ซ่อมไม่พอ จึงทำให้เกิดประเด็นเรื่องค่าขาดประโยชน์ คปภ. กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ แต่การจัดการเรื่องนี้ต้องไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจึงจะเวิร์กได้จริง
  32. บริษัทประกันภัยสามารถกำหนดความรับผิดชอบส่วนแรก (deductible) ในส่วนของแบตเตอรี่ได้ แต่เบี้ยประกันภัยก็ควรถูกปรับตามไปด้วย
  33. ทำอะไรอย่าผลีผลาม เราต้องทำงานบนพื้นฐานของข้อมูล อย่ารีบรับประกันภัยเพื่อ market share ในระยะแรก ทุกอย่างยังไม่นิ่ง โอกาสและความท้าทายมาด้วยกันเสมอ