PMC ธุรกิจผลิตจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 11 ก.ย.นี้ ในราคาไอพีโอ 1.82 บาท/หุ้น มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 702 ล้านบาท
วันที่ 10 กันยายน 2567 นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PMC” ในวันที่ 11 กันยายน 2567
PMC เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ หรือฉลากกาวซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต้นน้ำประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษ โดยเป็นการจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printers) และผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก มีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศ : ต่างประเทศประมาณร้อยละ 65 : 35 โดยส่งออกไปกว่า 15 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบันมีโรงงานผลิตสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จังหวัดสมุทรสาคร มีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์ 75 ล้านตารางเมตรต่อปี งวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้แยกตามประเภทผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์กระดาษ : สติ๊กเกอร์ฟิล์ม : สติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษร้อยละ 62 : 26 : 12 ตามลำดับ และหากพิจารณากลุ่มอุตสาหกรรมที่นำผลิตภัณฑ์ไปใช้งาน แบ่งสัดส่วนดังนี้ กลุ่มค้าปลีกและของใช้ส่วนตัว : กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม : กลุ่มขนส่ง : อื่น ๆ ร้อยละ 64 : 13 : 8 : 15 ตามลำดับ
PMC มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 385.72 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 270 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 115.715 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ SELIC เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นจำนวน 34.715 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 29-30 สิงหาคม และ 2 กันยายน 2567 เสนอขายต่อบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 71 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 3-5 กันยายน 2567 ในราคาหุ้นละ 1.82 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 210.60 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 702 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) เท่ากับ 17.40 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.1046 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อีก 110 ล้านตารางเมตรต่อปี มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 230 ล้านบาท ปัจจุบันสายการผลิตใหม่อยู่ระหว่างการทดสอบการเดินเครื่องจักร (Test Run) และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป ภายหลังจากที่สายการผลิตใหม่ติดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทจะมีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์รวมทั้งสิ้น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี
ซึ่งถือเป็นกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของผู้ประกอบการในประเทศไทย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไป 1) ลงทุนในสายการผลิตใหม่ และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 2) ลงทุนขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม
PMC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 70.00 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินบริษัทภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.pmclabel.com และ www.set.or.th