วิธีซื้อกองทุนวายุภักษ์ ผ่าน 8 สถาบันการเงิน รับปันผล 3-9% ต่อปี

กองทุนวายุภักษ์ ราคาขายหน่วยละ 10 บาท ซื้อขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท เปิดจองสำหรับนักลงทุนรายย่อย 16-20 ก.ย.นี้ รับปันผล 3-9% ต่อปี เตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นวันที่ 7 ต.ค. 67

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าประมาณ 100,000-150,000 ล้านบาท โดยแบ่งผู้ลงทุนเป็น 2 กลุ่มหลักคือ

กลุ่มที่ 1 ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยและมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อยดังกล่าว เบื้องต้นได้กำหนดสัดส่วนการเสนอขายแก่ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ 30,000-50,000 ล้านบาท

กลุ่มที่ 2 ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม อาทิ ธนาคารพาณิชย์, บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย, กองทุนประกันสังคม, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ อีกประมาณ 100,000-120,000 ล้านบาท

โดยมีระยะเวลาลงทุนของโครงการเบื้องต้น 10 ปี จะเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นผู้ลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 16-20 กันยายน 2567 จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย หรือ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 หน่วย หรือ 1,000 บาท โดยจัดสรรด้วยวิธี Small Lot First หรือผู้จองซื้อที่จำนวนขั้นต่ำได้รับจัดสรรก่อน ทำให้มีโอกาสในการได้รับจัดสรรหน่วยลงทุนเท่ากันในการจองซื้อ

แต่ผู้ลงทุนจะต้องชำระเงินค่าจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งเดียวเต็มจำนวนที่จองซื้อ หากไม่ได้รับจัดสรรครบจำนวน จะได้รับเงินคืนภายใน 7 วันทำการหลังสิ้นสุดการจองซื้อของผู้ลงทุนทุกประเภท หรือไม่เกินวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้จะประกาศผลการได้รับจัดสรรในวันที่ 25 กันยายน 2567 ผ่านทาง Settrade.com

ADVERTISMENT

ซื้อผ่าน 8 สถาบันการเงิน

สำหรับช่องทางการจองซื้อของผู้ลงทุนรายย่อย มีทั้งผ่านโทรศัพท์ สำนักงานสาขา และช่องทางออนไลน์ผ่าน 8 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย

1.บลจ.กรุงไทย โทร.0-2686-6100 กด 9 และสำนักงานสาขา
2.บลจ.เอ็มเอฟซี โทร.0-2649-2000 กด 0 สำนักงานสาขา และ www.mfcfund.com
3.ธนาคารกรุงเทพ โทร.1333 สำนักงานสาขา และ Mobile Banking
4.ธนาคารออมสิน โทร.1115 กด 5 และแอปพลิเคชั่น MyMo
5.ธนาคารกสิกรไทย โทร.0-2888-8888 ต่อ 869 สำนักงานสาขา และ www.kasikornbank.com/kmyinvest

ADVERTISMENT

6.ธนาคารกรุงศรี โทร.1572 สำนักงานสาขา และแอปพลิเคชั่น KMA
7.ธนาคารกรุงไทย โทร.0-2111-1111 สำนักงานสาขา และ www.moneyconncet.krungthai.com หรือแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT
8.ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร.0-2777-6784 สำนักงานสาขา และแอปพลิเคชั่น SCB EASY

ทั้งนี้หน่วยลงทุนในครั้งนี้จะอยู่ในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ 2 ทางเลือกคือ 1.รับหน่วยลงทุนเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง หรือ 2.ฝากหน่วยลงทุนไว้กับนายทะเบียน (บัญชี 600) แต่กรณีนี้จะไม่สามารถเข้าซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทันวันแรกที่หน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

และหากผู้ลงทุนที่ฝากหน่วยลงทุนเข้าบัญชี 600 ต้องการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนในตลาดหุ้นไทย ผู้ลงทุนจำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ก่อน และโอนหน่วยลงทุนจากบัญชี 600 ตามขั้นตอนและวิธีการที่กำหนดเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของตนเอง เพื่อซื้อหรือขายในตลาดหุ้นต่อไป

โดยหน่วยลงทุนประเภท ก. หลังจากเพิ่มทุนเสร็จแล้ว จะมีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 โดยผู้ลงทุน ผู้สนใจลงทุน และผู้ถือหน่วยลงทุน สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ผ่านตลาดหุ้นไทยได้ทุกวันทำการ และสามารถโอนหน่วยลงทุนประเภท ก.ได้อย่างเสรี โดยราคาหน่วยลงทุนประเภท ก. ในตลาดรองจะเป็นไปตามกลไกของราคาตลาด ซึ่งอาจแตกต่างจากมูลค่าที่ตราไว้ ราคาเสนอขาย หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยมีธนาคารกรุงไทย (KTB) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง

“เชื่อว่าการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนวายุภักษ์ หนี่ง จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั่วไป ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว ในรูปแบบเงินปันผลตามเงื่อนไขที่กำหนดจากหุ้นที่เข้าลงทุน” นายธนโชติกล่าว