ส่อง 10 ประเด็น เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.50% ส่งผลต่อสินทรัพย์โลกอย่างไร ?

ดอลลาร์

บล.ทรีนีตี้ เปิดมุมมองหลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.50% หนุนสภาพคล่องตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 4 แนะโฟกัสกลุ่มหุ้น Domestic Play กลุ่มสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมถือครองทองคำและพันธบัตรต่อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอ

วันที่ 19 กันยายน 2567 นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศลดอกเบี้ย 0.50% ล่าสุด ว่าจะส่งผลต่อสินทรัพย์โลกใน 10 ประเด็นหลักดังนี้

ณัฐชาต เมฆมาสิน
ณัฐชาต เมฆมาสิน

1.สำหรับในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ประเมินว่าจะเป็นทางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Nasdaq) ที่เริ่มกลับมาปรับตัว Outperform หุ้นกลุ่มวัฏจักร (Dow Jones) อีกครั้ง เนื่องจากมักเป็นกลุ่มที่ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนั้นยังอาจรวมถึงหุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก (Russell 2000) ที่จะได้ประโยชน์ส่วนเพิ่มอย่างรวดเร็วจากการปรับตัวลงของดอกเบี้ยในตลาด

2.สำหรับตลาดหุ้นไทย แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่ม Global Cyclicals ไปอีกระยะ เช่น กลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี แม้ Valuation ส่วนใหญ่ของหุ้นกลุ่มนี้จะยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่ความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มีโอกาสที่จะกดดันราคาต่อไปได้ ดังนั้น หากต้อง Selective แนะนำโฟกัสการลงทุนไปที่กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก อสังหาฯ ไฟแนนซ์ ที่ยังคงมี Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อไป

3.ประเมินสภาพคล่องของไทยที่คงค้างอยู่ในบัญชี FCD ขณะนี้กว่า 7.7 แสนล้านบาท จะเริ่มมีการทยอยไหลย้อนกลับเข้าสู่ประเทศมากขึ้น ซึ่งบางส่วนน่าจะมีการไหลเข้าสู่ระบบตลาดทุนในประเทศได้ ถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยประคับประคองตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้

4.มองสภาพคล่องส่วนเกินที่เตรียมจะไหลเข้ามามากขึ้นในช่วงถัดไป เมื่อมาประกอบกับความเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในระดับต่ำ และ Valuation ที่ยังคง Laggard หุ้นขนาดใหญ่อย่างมากในการ Rally ของหุ้นไทยรอบนี้ จะทำให้เรามีโอกาสเห็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (sSET & mai) กลับมา Outperform อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้

ADVERTISMENT

5.ประเมินทองคำเป็นสินทรัพย์ผู้ชนะที่สำคัญจากผลการประชุม Fed ล่าสุด เนื่องจากขาหนึ่งจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยที่มากกว่าคาด ส่วนอีกขาหนึ่งจะได้ประโยชน์จากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอที่สูงขึ้น ดังนั้น หากราคาตกลงมาในช่วงสั้น มองเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการเพิ่มน้ำหนัก

6.มองแนวโน้ม Bond Yield สหรัฐมีโอกาสไหลลงต่อ โดยเฉพาะรุ่นระยะสั้น ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มีกำไรจากการถือครองพันธบัตรสหรัฐมาก่อนหน้านี้ แนะนำให้สามารถ Let Profit Run ต่อไปได้

ADVERTISMENT

7.ส่วนในแง่ผลกระทบต่อค่าเงิน USD นั้น ถือว่าประเมินค่อนข้างยาก เนื่องจากขาหนึ่งอาจถูกกดดันจากปรากฏการณ์ USD Carry Trade ที่อาจจะดำเนินต่อไป แต่ในอีกขาหนึ่งนั้น อาจมีผู้ที่เป็นกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอโยกเงินเข้าสู่ Safe Havens ซึ่งเงิน USD ถือเป็นหนึ่งในนั้น

8.การปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในระดับ 0.50% นี้ ยิ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นของเราที่ประเมินมาตลอดว่า ธปท.จะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในสมมุติฐานการคำนวณระดับเป้าหมาย SET Index ของเรามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเป้าหมาย SET ในกรณีดีสุดจะอยู่ที่ระดับ 1,480 จุด

9.มองแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยมีแนวโน้มปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐในช่วงถัดไป ดังนั้น สำหรับผู้ที่ถือครองตราสารหนี้ไทยอยู่ สามารถ Let Profit Run ต่อไปได้เช่นกัน

10.การปรับลงของ Bond Yield ไทยที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปนั้น ยังส่งผลให้มาตรวัด Dividend Yield Gap ของตราสารที่มีคุณลักษณะคล้ายพันธบัตร เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย แนะนำ Overweight ตราสารเหล่านี้ต่อไปด้วยเช่นกัน