ก.ล.ต.โชว์สถิติการบังคับใช้กฎหมายครึ่งปีแรก ประเดิมลงโทษทางแพ่งแล้ว 10 ราย

ก.ล.ต. เปิดผลการบังคับใช้กฎหมายครึ่งปีแรก พบผู้ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งแล้ว 10 ราย สั่งค่าปรับกว่า 13,957,712 ล้านบาท ส่วนยอดเปรียบเทียบปรับการดำเนินความผิดคดีอาญาพุ่งขึ้นเป็น 64 ข้อหา แซงหน้าช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 26 ข้อหา สวนทางผู้ถูกกล่าวโทษที่ลดลงเหลือ 23 ราย จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 51 ราย ด้านเรื่องร้องเรียนการปฎิบัติหน้าที่ของผู้บริหารหรือกรรมการบริษัทจดทะเบียนนำโด่งกว่า 31 เรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยรายงานข้อมูลสถิติการบังคับใช้กฎหมายของตลาดทุนในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (1 ม.ค. – 30 มิ.ย.2560) ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกที่เริ่มประกาศใช้การดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง ซึ่งพบว่ามีจำนวนคดีลงโทษทางแพ่งแล้ว 4 คดี จำนวนผู้กระทำความผิด 10 ราย ซึ่งมีมูลค่าค่าปรับทางแพ่งประมาณ 13,957,712 ล้านบาท และชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับ 9,104,320 ล้านบาท

ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินคดีอาญานั้น มีการเปรียบเทียบปรับทั้งหมดประมาณ 64 ข้อหา โดยมีจำนวนผู้ถูกกล่าวหา 43 ราย หรือคิดเป็นมูลค่าจำนวนเงินค่าปรับ 9,969,220 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 26 ข้อหา ผู้ถูกกล่าวหา 22 ราย แต่จำนวนเงินค่าปรับยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 45,280,298 บาท ขณะที่ส่วนของการดำเนินคดีอาญาโดยการกล่าวโทษกลับปรับตัวลดลงเหลือเพียงจำนวน 6 คดี และมีจำนวนผู้ถูกกล่าวโทษ 25 ราย ซึ่งปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 15 คดี และมีจำนวนผู้ถูกกล่าวโทษสูงถึง 42 ราย

ขณะที่ส่วนของการดำเนินการทางบริหาร พบว่ามีการสั่งพักงานรวมทั้งหมด 6 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 3 ราย โดยแบ่งออกเป็นส่วนการพักงานผู้แนะนำการลงทุนจำนวน 5 ราย และผู้บริหาร 1 ราย รวมทั้งมีการเพิกถอนความเห็นชอบจำนวน 4 ราย ได้แก่ ผู้แนะนำการลงทุน 1 ราย ผู้จัดการกองทุน 1 ราย และผู้บริหาร 2 ราย ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 10 ราย แบ่งเป็นผู้แนะนำการลงทุน 8 ราย และผู้บริหาร 2 ราย

นอกจากนี้ยังมีการรับเรื่องร้องเรียนในช่วงที่ผ่านมากว่า 139 เรื่อง ซึ่งแบ่งออกเป็นเรื่องร้องเรียนการปฎิบัติหน้าที่ของผู้บริหารหรือกรรมการบริษัทจดทะเบียนมากที่สุด 32 เรื่อง รวม 11 บริษัท รองลงมาเป็นเรื่องร้องเรียนบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทจดทะเบียน 27 เรื่อง รวม 19 บริษัท,เรื่องการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 15 เรื่อง,การขึ้นเครื่องหมายบนกระดานซื้อขาย 10 เรื่อง, การประชุมผู้ถือหุ้น 9 เรื่อง และอื่นๆ 46 เรื่อง อย่างไรก็ตามเรื่องร้องเรียนทั้งหมดมีจำนวนเรื่องที่ยุติแล้ว 100 เรื่อง และเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ราว 39 เรื่อง

นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน ก.ล.ต. กล่าวว่าภาพรวมมาตรการลงโทษทางแพ่งซึ่งเพิ่งเริ่มใช้ปีนี้ปีแรกถือว่าผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะการมีมาตรการลงโทษทางแพ่งทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการป้องปรามการกระทำผิดในระยะยาวให้ลดลงได้ ซึ่งหากดูจากสถิติการดำเนินการตามมาตรการลงโทษทางแพ่งตั้งแต่เริ่มใช้ในตอนต้นปี 2560 จะพบว่าผู้กระทำผิดยินยอมเข้ารับโทษทางแพ่งทุกคดี

ขณะที่ในส่วนของจำนวนเคสที่มีการปรับทางอาญาที่เพิ่มมากขึ้นนั้น มาจากความผิดหลายกรณี อาทิ การส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นล่าช้าของผู้บริหาร,การปรับบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลล่าช้า และการปรับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือบริษัทจัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่ผิดหลักเกณฑ์การกำกับ

“ก.ล.ต.พยายามเร่งทำคดีที่อยู่ในกระบวนการทำงานให้ออกมาโดยเร็วที่สุด โดยมีการกำหนดแผนการทำงานที่ชัดเจน รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละกรณีการกระทำผิดให้เหมาะสม ประกอบกับมีการนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้ซึ่งทำให้กระบวนการพิจารณามีความรวดเร็วยิ่งขึ้นบางความผิดใช้เวลาไม่ถึงปีก็สามารถลงโทษได้” นายปริยกล่าว