ซีอีโอแบงก์สแกนธุรกิจ Q4 สินเชื่อไม่โต-ปล่อยกู้รายย่อยหืดจับ

bank-scan

ปีนี้แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็น “ขาลง” ขณะเดียวกันภาวะ “หนี้ครัวเรือน” ที่ยังอยู่ระดับสูง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต่างตั้งการ์ดสูง เพราะกังวล “หนี้เสีย” ลุกลามมากขึ้น โดยขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งท้ายปลายปีแล้ว มาดูกันว่า บรรดา “นายแบงก์” มองภาพธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นอย่างไร

เริ่มจาก “ขัตติยา อินทรวิชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารปีนี้น่าจะทรงตัว คงโตไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 3-5% เนื่องจากลูกค้าระมัดระวังในการกู้ยืม และแบงก์เองก็ต้องประคองตัวให้ผ่านพ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี ตอนนี้เริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น แต่อาจจะยังไม่ชัดเจนในปีนี้

ขัตติยา อินทรวิชัย
ขัตติยา อินทรวิชัย

“ปีนี้เราเน้นฐานลูกค้าเดิม หรือลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่แบงก์รู้จักพฤติกรรม ไม่ได้มุ่งเน้นเพิ่มลูกค้ารายใหม่ ขณะเดียวกันก็เน้นกลุ่มสินเชื่อหลักประกันเป็นหลัก เช่น สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ สินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นต้น อย่างไรก็ดี แม้ว่าลูกค้ารายใหญ่ยังไปได้ดีอยู่ แต่การกู้ยืมใหม่เพื่อลงทุนหรือขยายธุรกิจน้อยกว่าการชำระคืนหนี้ ทำให้ภาพรวมสินเชื่อใหม่โตไม่ทัน”

ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของแบงก์ยังอยู่ในกรอบ โดยทั้งปีที่คาดว่าเอ็นพีแอลจะต่ำกว่า 3.25% แม้ว่าจะเห็นสัญญาณลูกค้ารายใหญ่บางรายขยับเป็นหนี้เสีย แต่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมานานแล้ว อย่างไรก็ดี ภาพรวมการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (ECL) ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.89%

“เราคงเน้นการดูแลลูกค้าเดิมของเราก่อน ไม่เน้นลูกค้าใหม่ และเน้นไปทางรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งวันนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณรายได้ค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ดีขึ้นและเริ่มมาแล้ว เช่น ค่าฟีกองทุนรวม เพย์เมนต์ ธุรกิจความมั่งคั่ง และประกัน ส่วนการเติบโตปีหน้าคงต้องมาดูอีกที แต่ก็โตสอดคล้องกับ GDP”

ขณะที่ “ปิติ ตัณฑเกษมฐ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) กล่าวว่า สินเชื่อปีนี้จะติดลบ โดยสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นตัวฉุด เนื่องจากปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่น้อยกว่าชำระคืนหนี้ เพราะคนซื้อรถยนต์และบ้านลดลง ซึ่งธนาคารที่ทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยปีนี้ยากมากที่จะเติบโต ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังพอไปได้ แต่การลงทุนยังค่อนข้างน้อย เพราะผู้ประกอบการอยู่ในโหมดประคองตัว เพื่อพิจารณาว่า จะผลิตสินค้าอะไรที่สามารถแข่งขันกับจีนได้

ADVERTISMENT
ปิติ ตัณฑเกษม
ปิติ ตัณฑเกษม

ด้านเอ็นพีแอลของทีทีบีในไตรมาส 3 ขยับขึ้นจากไตรมาส 2 เล็กน้อย แต่ยังสามารถควบคุมได้ โดยธนาคารปรับโครงสร้างเชิงป้องกัน ที่เรียกว่า Proactive Restructure ตามแนวทาง ธปท.

“เราเจอหลายปัจจัยเข้ามากระทบ ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้คนลงทุนก็ชะลอ หรือของที่จะขยาย ก็ต้องดูว่าจะโดนจีนเข้ามาถล่มราคาหรือไม่ เพราะผลิตไปก็สู้ไม่ได้ ทำให้ภาคธุรกิจเองก็ฝืดที่จะกู้เงินลงทุน เพราะเขาก็ต้องดูหน้าดูหลังให้ดีก่อน ภาคครัวเรือนสินเชื่อมีประกันกู้บ้านกู้รถก็ชะลอ หรือต่อให้คนมีเงินอยากซื้อรถก็ชะลอดู เพราะว่าราคารถยังไม่นิ่ง”

ADVERTISMENT

“อาทิตย์ นันทวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจของเอสซีบี เอกซ์ คงมีทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมธนาคาร คงไม่ได้แตกต่างกัน โดยธุรกิจที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี จะเป็นในส่วนของบริษัท อบาคัส ดิจิทัล และบริษัท มันนิกซ์ ซึ่งปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์และสินเชื่อดิจิทัล แต่พอร์ตสินเชื่อยังมีขนาดค่อนข้างเล็ก

อาทิตย์ นันทวิทยา
อาทิตย์ นันทวิทยา

“SCBX ยังคงมีเป้าหมายการลงทุนในเทคโนโลยีฟินเทค โดยจะนำมาปรับใช้ในธุรกิจ เพื่อมาช่วยในเรื่องของการปรับลดต้นทุน ซึ่งจะเป็นอาวุธสำคัญในการแข่งขัน เนื่องจากในประเทศการขอสินเชื่อบ้านและรถยนต์ไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า มีความเสี่ยงทางด้านเครดิตตึงตัว ทำให้เกิดเอ็นพีแอลสูง หากนำเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ และดูวินัยการเงิน ด้วยต้นทุนที่ถูกลง จะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาด”

“ผยง ศรีวณิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) กล่าวว่า จากกรณี กระทรวงการคลัง หารือกับ ธปท. ให้มีการแก้หนี้กลุ่มเปราะบางที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) ราว 7-8 แสนบัญชีนั้น เรื่องหนี้ครัวเรือน สมาคมธนาคารไทยให้ความสำคัญอยู่แล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งระบบ ซึ่งมีหลายแนวทาง แต่จะต้องเป็นแนวทางที่ยั่งยืน เพราะมีทั้งปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเชิงโครงสร้าง และปัญหาระยะยาวที่ต้องแก้ไข

ผยง ศรีวณิช
ผยง ศรีวณิช

“ตอนนี้เราถกกันค่อนข้างเยอะในเรื่องนี้ เพราะเราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข และหนี้ครัวเรือน ก็เป็นประเด็นที่เราบรรจุและเสนอนายกรัฐมนตรีไป ตอนที่ได้เข้าพบช่วงที่ท่านเข้ารับตำแหน่งแล้ว”

“ไพโรจน์ ชื่นครุฑ” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า แบงก์ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือลูกค้า โดยกลุ่มที่น่าเป็นห่วง จะเป็น กลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี ส่วนกลุ่มรายย่อยก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ เพราะมีเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ
ไพโรจน์ ชื่นครุฑ

“เราค่อนข้างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยต้องดูความสามารถของลูกค้าด้วย จะต้องมีความสามารถในการชำระหนี้และมีเงินเหลือเพียงพอ จึงเป็นเหตุผลให้แบงก์หนี้เสียค่อนข้าง Stable อย่างไรก็ดี เราวางเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ยังโตอยู่ แต่อาจจะต้องรอดูไตรมาสสุดท้าย แต่คิดว่าคงไม่ได้โตหวือหวา อาจจะทรงตัว เพราะเศรษฐกิจไม่ได้เอื้อมาก โตเยอะไปก็ไม่ดี”