
บล.เอเซีย พลัส เผยสาเหตุนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง 12 วัน ราว 2.07 หมื่นล้านบาท แต่ดัชนียังปรับขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกองทุนวายุภักษ์คอยหนุนพยุงตลาด จับตาการเมืองเริ่มระอุ กดดันดัชนีผันผวน แนะกลยุทธ์ลงทุน 3 ธีมปัจจัยหนุนเฉพาะตัว
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ว่า กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก 12 วัน แต่ทำไมหุ้นใหญ่ยังขึ้นเด่น ในช่วงที่ผ่านมา แม้ต่างชาติจะขายสุทธิหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ถูกขายสุทธิติดต่อกันนาน 12 วันทำการ ด้วยมูลค่าสูงถึง -2.07 หมื่นล้านบาท
เช่นเดียวกับกระแสเงินทุนที่ชะลอ หรือไหลออกหุ้นในกลุ่ม TIP ช่วง 25 ก.ย.-10 ต.ค. 67 กดดันตลาดหุ้นอินโดนีเซีย -3.8%, ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ -0.3% แต่ตลาดหุ้นไทยกลับยังบวกได้ 0.4%
“ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกองทุนวายุภักษ์คอยหนุนพยุงตลาด และยังสังเกตได้ว่า ดัชนีหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SET50 ปรับขึ้นได้เด่นกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ดัชนีหุ้นขนาดเล็กอย่าง MAI ปรับลง -3.1% แสดงให้เห็นว่าสถาบัน หรือกองทุนวายุภักษ์เน้นและให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก”
อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยเริ่มระอุ กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวน ในช่วงคำตัดสิน วานนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ได้ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เลิกทำการที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ซึ่งรายละเอียดมีด้วยกัน 6 ข้อหลัก ดังรูปด้านล่าง ซึ่งกระบวนการต่อไปคือ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ โดยหากเปรียบเทียบกับ TIMELINE คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลใช้เวลาราว 2 เดือนในการพิจารณารับ และใช้เวลารวมกว่า 6 เดือนในการตัดสินคดีความ
ขณะที่ในมุมตลาดหุ้นไทย ปัจจัยการเมืองร้อนแรง เคยกดดัน FUND FLOW ไหลออกหุ้นไทยติดต่อกัน 26 วันทำการ (ช่วง พ.ค.-ก.ค. 24) เป็นการขายติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ พร้อมกับมีสัดส่วน SHORT SELL สูงถึง 13-17% ของมูลค่าซื้อขาย ซึ่งในปัจจุบัน FUND FLOW ต่างชาติไหลออก 12 วันติด มูลค่าราว 2.07 หมื่นล้านบาทแล้ว (รายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป) จึงทำให้อาจเห็นความผันผวนของ SET ได้ในช่วงรอคำตัดสิน
สรุป เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ช่วยสนับสนุน SET INDEX ให้มี DOWSIDE จำกัดกว่าตลาดหุ้นอื่น อีกทั้งยังเป็นการเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้แนะนำหุ้นขนาดใหญ่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว 3 ธีม
▪ เก็งกำไรหุ้นน้ำมัน, หุ้นอิงจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเสาร์นี้ PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, NER, STA, AOT
▪ หุ้นกำไร 3Q เด่น CK, GPSC, BDMS, CENTEL, CBG, MTC, BEM
▪ หุ้นได้ SENTIMENT คาดหวัง MSCI เพิ่มน้ำหนัก หรือกลับเข้ามาในดัชนี 6พ.ย. นี้ MTC, GPSC, IVL