
รมว.คลัง นัดถกสมาคมธนาคารไทยพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) แก้ไขปัญหาหนี้-สนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม พร้อมเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ‘ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง’ บ้าน วงเงิน 55,000 ล้านบาท ในสัปดาห์หน้า
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะหารือกับสมาคมธนาคารไทย ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านอสังหาริมทรัพย์ และแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ (กระบะ) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของประชาชน
ส่วนมาตรการการโอน การจดจำนอง ที่จะสิ้นสุดอายุในสิ้นปี 2567 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะที่มาตรการ LTV ต้องดูว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นอย่างไร การผ่อนคลายจะได้หรือไม่
“สิ่งที่จะช่วยครั้งนี้คงเยอะพอสมควร เพื่อให้ประชาชนมีภาระหนี้ที่ลดลง เช่น การพักดอกเบี้ย หรือยกดอกเบี้ยให้อย่างมีเงื่อนไข และการขยายเวลาการชำระหนี้ ซึ่งจะมีการคุยกับแบงก์เอกชนในวันพรุ่งนี้ หากไม่จบก็จะมีคุยกันต่อไป”
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการสินเชื่อ ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง บ้านและคอนโดฯ ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า เพื่อรองรับความต้องการมีบ้านของประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้เข้าถึงสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ มีโอกาสในการซ่อมแซม ต่อเติมบ้านให้มั่นคงได้
“ซึ่งหากผ่านมติ ครม.ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นอีกฟันเฟืองของทางภาครัฐในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ส่งต่อความสดใสถึงต้นปีหน้า” นายพิซัยกล่าว
ทั้งนี้ ภาครัฐได้ตระหนักว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจบ้านเมืองอย่างมาก โดยในอุตสาหกรรมนี้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ได้สูงถึง 5% และในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถสร้างจีดีพีได้สูงสุด ทำให้มูลค่ารวมในอุตสาหกรรมนี้สูงราว 1.1 ล้านล้านบาท
ถึงแม้สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันนี้ไม่สดใส ในส่วนของทางกระทรวงการคลังที่ได้วางแนวทางในการสนับสนุนภาคอสังหาฯ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home ที่ได้ปล่อยสินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อ Happy Life ที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วจำนวน 18,000 ล้านบาท ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดี