ส่องหุ้นไทย 10 เดือนแรกปี 2567 นักลงทุนกลุ่มไหนแบกดัชนี พร้อมเปิด 10 หุ้นใหญ่ครองมาร์เก็ตแคปสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมของตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (2 ม.ค.-31 ต.ค.) พบว่าดัชนี SET ปิดตลาดวันนี้ (31 ต.ค.) ที่บริเวณ 1,466.04 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.66 จุด ให้ผลตอบแทน +2.28% จากต้นปี (2 ม.ค.) ที่อยู่บริเวณ 1,433.38 จุด โดยหากแยกมูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุนจะพบว่า กลุ่มนักลงทุนในประเทศยังเป็นผู้พยุงตลาดหุ้น ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ เป็นภาพการขายสุทธิหุ้นไทยอยู่ในระดับแสนล้าน โดยเฉพาะในเดือน ต.ค. พลิกเป็นขายสุทธิ 28,166.24 ล้านบาท จากในเดือน ก.ย. ที่ซื้อสุทธิ 28,903.57 ล้านบาท
มูลค่าซื้อขาย 10 เดือนแรก
• นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 86,386.98 ล้านบาท
• สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 36,353.61 ล้านบาท
• บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 995.57 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 123,736.16 ล้านบาท
10 อันดับ หุ้นมูลค่ามาร์เก็ตแคปสูงสุด
1. DELTA มูลค่า 1,640,306 ล้านบาท
2. PTT มูลค่า 956,860 ล้านบาท
3. AOT มูลค่า 878,570 ล้านบาท
4. ADVANC มูลค่า 797,088 ล้านบาท
5. GULF มูลค่า 771,454 ล้านบาท
6. CPALL มูลค่า 572,672 ล้านบาท
7. PTTEP มูลค่า 492,278 ล้านบาท
8. BDMS มูลค่า 441,003 ล้านบาท
9. TURE มูลค่า 424,990 ล้านบาท
10. SCB มูลค่า 377,116 ล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี รายงานภาพรวมดัชนี SET วันนี้ (31 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1,466 จุด เพิ่มขึ้น 18.84 จุด +1.30% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 42,739.35 ล้านบาท จำนวนหุ้นปรับขึ้น 363 บริษัท, หุ้นปรับลง 131 บริษัท ดัชนีมี Technical rebound ผสานกับมีข่าวดีจีนประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตพลิกขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนในประเทศมีข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เซ็กเตอร์ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีคือ อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, KCE, HANA) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (PTTEP, PTTGC, IVL) และกลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CRC, DOHOME) ส่วนเซ็กเตอร์ที่ปรับลงคือ กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, PR9)
โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ PTTEP (+2.02%), PTTGC (+2.97%), (IVL+2.97%) ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวรับข่าว OPEC เตรียมเลื่อนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจากเดิมมีกำหนดเพิ่มปริมาณการผลิตที่ระดับ 1.8 แสนบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เป็นต้นไป ผสานกับวันนี้มีจิตวิทยาบวกจากข่าวจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. กลับมาฟื้นตัวเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
SCC (+2.44%) มี Technical rebound หลังจากราคาหุ้นปรับลงสะท้อนงบไตรมาส 3/2567 ที่อ่อนแอไปแล้ว ประกอบกับวันนี้มี Analyst meeting โทนเป็น slightly positive เนื่องจาก SCC วางแผนลดค่าใช้จ่ายเพื่อลดการขาดทุนของธุรกิจปิโตรเคมี และปิดกิจการที่ไม่สร้างกำไรราว 10-15 แห่ง (ปิดไปแล้ว 2 ในไตรมาส 3/2567)
ADVANC (+2.61%) เป็นหุ้น Top pick ของกรุงศรีในเช้าวันนี้ ประเมินราคาหุ้นผ่านช่วงปรับฐานมาแล้ว ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานปกติไตรมาส 3/2567 ยังดีต่อเนื่องและจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2567 จาก High season ปีหน้ามีประเด็นเปิดประมูลคลื่นใหม่คาดลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าคลื่นหนุนกำไร ADVANC โตเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และต่อเนื่องในปี 2569
BA (+4.94%), ERW (+4.17%), CENTEL (+2.86%) สำหรับ BA คาดจะมีกำไรสุทธิโตเด่นสุดในกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยเข้าสู่ช่วง High season ส่วน ERW, CENTEL ฟื้นตัวเด่นรับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 1 แสนคนต่อวัน ในช่วงปลายเดือน ต.ค. เทียบช่วงก่อนหน้าเฉลี่ย 8 หมื่นคนต่อวัน ผสานกับมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ อาทิ มาตรการแอ่วเหนือ
BBIK (+6.33%) อีกหนึ่ง Top Pick ของกรุงศรีและราคาปรับตัวขึ้นเด่นวันนี้ รับธีม Infra Tech จากข่าว Equinix บริษัท Data Center รายใหญ่จากสหรัฐประกาศลงทุน Data Center ในประเทศไทยมูลค่ารวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ตอกย้ำภาพไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ภูมิภาค ผสานกับผู้บริหารได้รับ 2 รางวัลใหญ่จาก SET Awards 2024 คือ Best CEO Awards และ Young Rising Star CEO Awards