SET เดือน พ.ย. อ่อนตัว โอกาสซื้อ ต้นร้าย ปลายดี

SET-GOOD
คอลัมน์ : เติมความคิดพิชิตการลงทุน
ผู้เขียน : เอกภาวิน สุนทราภิชาติ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์

สวัสดีครับท่านนักลงทุน SET เดือน ต.ค. ปรับขึ้นได้ แต่มีแรงขายทำกำไรกดดัน โดยดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของเดือน หนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ รวมทั้งกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีต่อเนื่องจนถึงโลว์ซีซั่นปีหน้า นอกจากนี้ การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ 2.25% ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนดัชนีทดสอบ 1,500 จุด

อย่างไรก็ตาม ระดับดังกล่าวเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา ประกอบกับความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรกดดันดัชนีพักฐานลงมา และมีปัจจัยกดดันจากตลาดปรับน้ำหนักมาเป็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งละ 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ในช่วงที่เหลือของปี หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 4% กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง และการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทอ่อนค่า กระตุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยในเดือน ต.ค. ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 2.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมกระแส Fund Flow เดือนนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ราว 3.9 พันล้านเหรียญ

โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย ราว 2.9, 0.8, 0.7, 0.3 และ 0.3 พันล้านเหรียญ แต่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ราว 1.1 และ 0.04 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ

ด้านแนวโน้ม SET ในเดือน พ.ย. มองว่า จะเริ่มฟื้นตัวกลับได้ หลังพักฐานมาตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือน ต.ค. โดยแนวโน้มในช่วงต้นเดือน ดัชนีจะมีความผันผวนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. อย่างไรก็ตาม มองแนวรับบริเวณ 1,435-1,440 และ 1,420 จุด ตามลำดับ

Advertisment

คาดเป็นจุดรองรับได้ และฟื้นตัวกลับ โดยเม็ดเงินจากทั้งกองทุนวายุภักษ์ และกองทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีที่จะมีเข้ามามากในช่วงปลายปีเป็นปัจจัยหนุนดัชนีได้ ส่วนแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,480 และ 1,500 จุด ตามลำดับ

เอกภาวิน สุนทราภิชาติ
เอกภาวิน สุนทราภิชาติ

โดยแนะนำหุ้นที่น่าสนใจใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 1) หุ้น Earning Play สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ต้องการหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีที่กำไร 3Q67 คาดมีโมเมนตัมเติบโต YOY และ QOQ เลือก BEM BCH BDMS GULF TRUE AU TNP ขณะที่แนะนำระมัดระวังกลุ่มที่มีความเสี่ยง 3Q67 งบฯออกมาแย่กว่าตลาดคาด อาทิ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจากราคาน้ำมันลดลง กลุ่มบรรจุภัณฑ์จากยอดขายอ่อนตัวและค่าเงินบาทแข็ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็ง

Advertisment

2) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยปรับตัวลง แนะนำ หุ้นกลุ่ม Reits (LHHOTEL DIF) ซึ่งได้อานิสงส์บวกภายใต้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังจะเปลี่ยนเป็นทิศทางเป็นขาลง หุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) ซึ่งได้อานิสงส์จากประชาชนมีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น (ดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง) หุ้นธนาคาร (TISCO KKP) เพราะมีสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อสูง ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ และหุ้นที่มีต้นทุนกู้ยืมลดลง GPSC BAM

และ 3) หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์ และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL ADVANC HMPRO BCP

…แล้วพบกันใหม่ ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี