ส่อง 13 หุ้นเด่น เดือน พ.ย. 67 โบรกฯ แนะคัดเข้าพอร์ต หลบความผันผวน

เทรนด์หุ้นไทย

บล.เอเซียพลัส แนะหุ้นเด่นน่าลงทุน เดือน พ.ย.67 หลบความผันผวน ทิศทางการเลือกตั้งสหรัฐฯ -ดอกเบี้ยเฟด-ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ด้าน บล.ทิสโก้มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นไทยที่ผลประกอบการไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ออกมาดี  

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย.2567 ประเด็นต่างประเทศที่ต้องติดตามเป็นระยะๆ คือ 1). การเลือกตั้งสหรัฐฯ 2567 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. นี้เนื่องจาก ธีมการลงทุนจะเหวี่ยงไปตามผลการเลือกตั้ง ว่าพรรคใดจะชนะ ซึ่งล่าสุดพรรค REPUBLICAN มีคะแนนนิยมนำอยู่ 2).ติดตามการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะเฟดที่อาจจะลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด หนุน Bond yield ปรับตัวขึ้น 3). GEOPOLITICAL RISK ยังต้องติดตามใกล้ชิดในฐานะปัจจัยเสี่ยง

ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตช้า แต่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายการตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น จากเม็ดเงินคงเหลือของงบประมาณปี 2567 บวกเม็ดเงินใหม่จากการอนุมัติงบประมาณปี 2568 เพื่อทยอยขับเคลื่อน GDP GROWTH ไทยในช่วไตรมาส 4/67 ถึงปี 2568 ขณะที่เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยของภาครัฐฯ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้จ่ายภาครัฐ ฯการลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคครัวเรือนเป็นหลัก ซึ่งมีเพียงความเสี่ยงหากก่อหนี้มากเกิน อาจถูกหั่น CREDIT RATING ลงได้

ขณะที่ปัจจัยการเมืองไทยมีแนวโน้มร้อนแรง ขึ้นตามลำดับ กดดันให้ดัชนีมีโอกาสถูกกดดันได้ในอนาคต โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าในช่วงต้น-กลางเดือน พ.ย.67 น่าจะเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม แต่จะยังไม่เห็นข้อสรุปเรื่องการยุบพรรคตามคำร้องต่างๆจึงทำให้ FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยน้อยลงในช่วงที่เหลือของปีทั้งจากส่วนของต่างชาติ และสถาบัน

ขณะที่กำไรบริษัจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/67  ดูไม่สดใส โดยเบื้องต้นข้อมูลการทำ EARING PREVIEW จาก BLOOMBERG CONSENSUS ณ 29 ต.ค. 67 มีการทำEARNING PREVIEW 132 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน MARKET CAP 75%) พบว่า กำไรไตรมาส 3/67 ลดลง 11%QOQ และลดลง 14.5%YOY เปรียบเทียบได้กับกำไร ไตรมาส 3/67 บริเวณ 2.2 –2.3 แสนล้านบาทเท่านั้น

ในมุม VALUATION มองผ่าน (MEYG) หรือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนในดอกเบี้ยนโยบายกับตลาดหุ้นไทยได้ 3.8% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเท่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน EPS67F 91.4 บาทต่อหุ้น และ EPS68F 98.8 บาทต่อหุ้น ภายใต้การคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% และอิง MEYG ที่ 3.8% จะได้ดัชนีเป้าหมายปี 2567 ที่ 1,510 จุด และปี 2568 ที่ 1,633 จุด

Advertisment

สำหรับกลยุทธ์ เดือน พ.ย.2567 แนะนำหลบความผันผวน กับหุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/67  เด่น อย่าง WHA, PLANB, CPAXT, BDMS, SC, AOT

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่า เป็นจังหวะในการสะสมหุ้นที่คาดกำไรจะออกมาดีทั้งในไตรมาส 3/2567 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2567 และมีความปลอดภัยจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย

Advertisment

สำหรับหุ้นเด่นที่ บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนพฤศจิกายน คือ ADVANC, AMATA, BEM, COM7, CPALL, MTC และ TASCO

ด้านแนวรับสำคัญของดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,430 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,400-1,410 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่1,485-1,490 จุด 1,500-1,520 จุด ตามลำดับ