นายกฯ กำชับเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯลงทุน “คลัง” ชี้ยังไม่ถกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

นายกฯ “แพทองธาร” กำชับเร่งเบิกจ่ายงบฯลงทุนให้ได้ตามเป้า 80% กระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมติดตามผลรายสัปดาห์  “คลัง” ชี้ยังไม่ถกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 4/2567 โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ว่ากระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือหน่วยราชการจำนวน 2 เรื่อง คือ

1.การเร่งรัดการเบิกจ่าย ซึ่งหากการจัดเก็บรายได้รัฐสามารถทำได้ดีตั้งแต่ช่วงต้นปีงบประมาณ เป้าการเบิกจ่ายให้ได้ที่ 80% ของงบฯ ลงทุนน่าจะบรรลุเป้าได้

2.การขอความร่วมมือในการเชื่อมต่อข้อมูล ซึ่งวันนี้กระทรวงการคลังจัดทำระบบการจัดเก็บฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากหากมีข้อมูลของส่วนราชการที่สำคัญมาเชื่อมต่อด้วยกันได้

“นายกฯได้กำชับในเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เข้าเป้า 80% ของงบฯ ลงทุน เพราะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ทําได้เลย เม็ดเงินที่ลงสู่ระบบเศรษฐกิจก็จะช่วยในการเจริญเติบโตได้ทันที ซึ่งยังไม่ต้องมีมาตรการอะไร โดยที่ผ่านมางบฯ ลงทุนจะยังไม่เข้าเป้าที่วางไว้ของงบฯลงทุน”

Advertisment

นายลวรณกล่าวว่า การเบิกจ่ายงบฯ ลงทุนช่วง 1 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 พบว่าดีกว่าค่าเฉลี่ย จึงอยากให้ทุกหน่วยงานรักษามาตรการนี้ไว้ และจะมีการติดตามการเบิกจ่ายเป็นรายสัปดาห์ โดยจะไม่ปล่อยให้ถึงกลางปีแล้วจะมาดูว่าการเบิกจ่ายเข้าเป้าหรือยัง ซึ่งการทำงานแบบเชิงรุกมากขึ้นเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังอยากเห็น

ทั้งนี้ ในการหารือคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าในวันนี้ไม่ได้มีการหารือ หรือรายงานเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นคนละเวทีกัน

Advertisment

“วันนี้เป็นเพียงการรายงานของศูนย์ราชการต่าง ๆ บางเรื่องก็เป็นความคืบหน้า หรือเป็นอุปสรรคที่อยากให้นายกฯ รับทราบแล้วแก้ไข บางเรื่องก็เป็นเรื่องของการขอความร่วมมือข้ามกระทรวง” ปลัดคลังกล่าว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีมีความพึงพอใจในเวทีลักษณะนี้ โดยมีความประสงค์จะจัดในทุกเดือน อาจจะเวียนกันไป อาจจะอยู่ที่ทำเนียบ หรือกระทรวงอื่น ๆ บ้าง สลับกันไป ถือเป็นเวทีที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะให้เกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งจากนี้ไปทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) จะรับไปดูแลต่อไป