กอบศักดิ์ ชี้ต้องวัดใจเฟดลดดอกเบี้ยแรงกว่า 0.25% จับตาเลือกตั้งสหรัฐ

กอบศักดิ์ ภูตระกูล
กอบศักดิ์ ภูตระกูล

ดร.กอบศักดิ์ ชี้ 4 จุดเปลี่ยนสำคัญการลงทุน ต้องวัดใจเฟดลดดอกเบี้ยแรงกว่า 0.25% หนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ มองไม่ว่า “ทรัมป์” หรือ “แฮร์ริส” ฝ่ายไหนชนะก็เกิดสงคราม แนะสินทรัพย์ต้องเลือกลงทุนไม่ควรลงทั้งตลาด

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ (67) ไปจนถึงปีถัดไป มองว่ามีอยู่ 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การลดดอกเบี้ย 2.การผันผวนตลาดการเงินโลก 3.การเลือกตั้งสหรัฐ 4. วิกฤตอสังหาฯจีน สำหรับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก มองว่าจะนำมาสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

รวมถึงราคาสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้นได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการทยอยลดอัตราดอกเบี้ยนั้น ประเมินว่าปีนี้จะปรับมีการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวมปีนี้เฟดลดดอกเบี้ย 1% และคาดว่าปี 2568 ลดอีก 1%

สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ คนใหม่ยังสร้างความผันผวนกับการลงทุน โดยไม่ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “คามาลา แฮร์ริส” ฝ่ายไหนชนะเลือกตั้ง ก็ต้องเกิดสงครามการค้า (Trade War) ซึ่งจะกระทบกับการต่อสู้เรื่องเศรษฐกิจ Technology Distraction และการแบ่งโลกตะวันออกกับตะวันตก ทำให้มองว่าการลงทุนในปี’67 ยังคงมีความท้าทาย

ซึ่งหากเป็น คามาลา แฮร์ริส ได้ชัยชนะ สงครามการค้าระหว่างประเทศจีนอาจจะไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ และเทคนิคการต่อสู้ที่ค่อนข้างสุภาพกว่า ในขณะที่ ทรัมป์ ค่อนข้างเดาใจได้ยากกว่า ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าจีนอยากมาตั้งโรงงานผลิต EV ที่เม็กซิโก โดยมีแผนที่จะมีการส่งออกไปตลาดสหรัฐ ผ่านนาฟต้า (NAFTA) ซึ่งทรัมป์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ทันทีว่า หากว่าจีนสร้างโรงงานเสร็จทรัมป์ก็จะมีการเรียกเก็บภาษีที่แพงขึ้น

ขณะที่ประเด็นสงครามภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) จะแตกต่างกัน โดย ทรัมป์ มองว่า ไม่ดีต่อประเทศใด ๆ ในเรื่องสงคราม อย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เป็นปัญหายืดเยื้อมา 2 ปี ทรัมป์จะตัดท่อน้ำเลี้ยง ขณะที่ แฮร์ริส มองว่านโยบายที่มีในปัจจุบันจะเดินหน้าต่อไม่มีการเปลี่ยนทิศทาง ดังนั้นปัญหาด้านสงครามอาจจะลุกลามมากขึ้น

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ มองว่าสินทรัพย์ต่าง ๆ ขึ้นมาเยอะพอสมควร และมีให้เลือกลงทุนมากมาย ขึ้นอยู่ที่ความชอบ ช่วงวิกฤตลงมาต่ำเป็นช่วงที่น่าลงทุน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน มองว่าต้องเลือกลงและไม่ควรลงทั้งตลาด อย่างเรื่องรถยนต์ เรื่อง AI ขึ้นอยู่กับผู้นำของสหรัฐ ใครจะได้เป็นผู้ชนะ แม้กระทั่งทองคำยังคงต้องติดตามต่อไป หากแฮร์ริส ชนะ จะส่งผลให้สงครามลุกลามขึ้นสินทรัพย์ทองคำจะไปต่อได้ หากทรัมป์ ชนะ ราคาบิตคอยน์ อาจได้รับอานิสงส์ทั้งในด้านราคาและการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะทำให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของคริปโต

“ช่วงต่อไปยังลงทุนได้แต่ต้องเลือก โดยแต่ละสินทรัพย์มีปัจจัยมาเป็นแรงเหวี่ยงและกระทบแตกต่างกัน อย่างน้อยการลดดอกเบี้ยของหลายประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สินทรัพย์ต่าง ๆ ดีขึ้นได้ เนื่องจากจะทำให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนดียิ่งขึ้นได้“

ADVERTISMENT