พิชัยชี้ไทยต้องเร่งปรับตัวกับสงครามการค้า ไม่ว่า ‘ทรัมป์-แฮร์ริส’ ใครชนะ

พิชัย ชุณหวชิร
พิชัย ชุณหวชิร

‘พิชัย’ ชี้ไทยต้องปรับตัวกับสงครามการค้า หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ว่า ‘ทรัมป์-แฮร์ริส’ จะเป็นผู้นำ มองอัตราแลกเปลี่ยนสำคัญ เหตุรูปแบบการส่งออกเปลี่ยน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ หรือนางคามาลา แฮร์ริส เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งก็มีปัญหาทั้งนั้น เพราะนโยบายของทั้งคู่จะยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศตัวเองมากขึ้น

เพราะที่ผ่านมาสหรัฐมีบทบาทแบบ One Man Show แต่ปัจจุบันมีขั้วอื่น ๆ มา ดังนั้น หลังจากนี้สหรัฐจะต้องมีการปรับแนวนโยบายในการบริหารประเทศ ทำให้มองว่า ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งก็มีปัญหาทั้งหมด แต่ความหนักและความแรงอาจจะไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ ท่ามกลางความรุนแรงของปัญหาสงครามการค้า (เทรดวอร์) ที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น ภายหลังผลการเลือกตั้งนั้น ประเทศไทยจะต้องพิจารณาภาพรวมและปรับตัวให้ดี ซึ่งหากปรับตัวได้ดีก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าทำได้ค่อนข้างดี สะท้อนจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มมากสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งในเรื่องนี้ประเทศไทยจะต้องพิจารณาใน 2 เรื่องสำคัญคือ

1.ต้องพัฒนาและสนับสนุนให้เป็นการผลิตโดยคนท้องถิ่น (Local Content) ซึ่งตรงนี้เป็นแนวทางที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับปรุงตัวเอง

2.โครงสร้างความเป็นเจ้าของการผลิตจะต้องเป็นของคนไทยด้วย ไม่ใช่แค่การนำเข้ามาประกอบในประเทศไทยเท่านั้น

ADVERTISMENT

สำหรับสถานการณ์ค่าเงินบาทจะแข็งค่าหรืออ่อนค่ามี 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ หากเงินบาทอ่อนค่าเราต้องรักษาเสถียรภาพค่าเงินไม่ให้อ่อนค่าน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรักษาความสามารถในการส่งออก

ส่วนอีกประเด็นคือ สกุลเงินของแต่ละประเทศจะผันผวนไปตามเงินดอลลาร์ แต่ขณะนี้สถานการณ์ไม่เหมือนในอดีต ประเทศไทยมีสภาพคล่อง มีเงินสำรองเพียงพอที่จะดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ จึงมองว่าปัญหาเหล่านี้คงไม่มากนัก สิ่งที่สำคัญที่อยากเห็นคือความสามารถในการส่งออกมากกว่า

ADVERTISMENT

โดยปัจจุบันยังมีช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่ง และบางช่วงก็อ่อนค่ากว่า แต่อยากให้มองในระยะยาว เพราะการแข่งขันเหล่านี้ต้องมองในระยะยาว เพราะฉะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น แต่แน่นอนว่าเราคงไม่ได้เข้าไปแทรกแซง โดยย้ำว่าอัตราแลกเปลี่ยนมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้รูปแบบการส่งออกเปลี่ยนไป