บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี เผยดัชนีหุ้นไทยปิดดิ่ง 14.25 จุด สอดคล้องตลาดหุ้นเอเชียปรับลง หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งสหรัฐ มีแนวคิดนโยบายเน้น American First เน้นกีดกันการค้า จะมีผลกระทบต่อเอเชีย
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดตลาดวันนี้ว่า ดัชนี SET ปรับลง 14.25 จุด (-0.96%) ปิดที่ระดับ 1,467.42 จุด เป็นการย่อตัวลงแรงช่วงท้ายตลาด โดยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดของวัน (Low) ทีบริวเณ 1463.06 จุด ปรับลง 18.61 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 57,225 ล้านบาท สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับลง หลังจากผลการเลือกตั้งสหรัฐ “โดนัล ทรัมป์” ได้รับคะแนนนำและจะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่
ซึ่งแนวคิดนโยบายเน้น American First เน้นกีดกันการค้า ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเอเชีย (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 111 บริษัท, หุ้นปรับลง 418 บริษัท) หุ้นกลุ่มที่ปรับขึ้นพยุงดัชนีคือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) ส่วนเซ็กเตอร์ที่ปรับลงกดดัชนีคือ กลุ่มพลังงาน (GULF, PTT, PTTEP) กลุ่มคอมเมิร์ซ (CPAXT, CPALL) และกลุ่มไอซีที (ADVANC, INTUCH)
สำหรับหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ THANI -11.73% หุ้นปรับลงตอบรับกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ที่ 80 ล้านบาท ต่ำกว่าเราคาดมาก เพราะ ค่าใช้จ่ายด้อยค่ารถยึดและค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) สูงกว่าคาด กำไรลดลง68% YOY และลดลง 69% QOQ ปรับราคาเป้าหมายปี 2568 เป็น 1.5 บาท จากเดิมที่ 1.7 บาท แต่คงคำแนะนำ Reduce เพราะตลาดเช่าซื้อรถบรรทุกยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ และมีความเสี่ยงเรื่องการเข้ามาของทุนจีน ทำให้เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรอง (Credit cost) และ NPL Ratio ยังคงระดับสูง ส่งผลต่อการเติบโตของสินเชื่อรวม
ขณะที่ DELTA +4.71%, KCE +4.14% หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นแรงรับคาดการณ์ดีมานด์การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้น อานิสงส์จากผลของโอกาสที่มาตรการกีดกันการค้าที่สหรัฐจะมีกับจีนจะเข้มงวดเพิ่มขึ้นหลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง
STA +1.95% หุ้นกลุ่มถุงมือยางปรับขึ้นจากมุมมองเชิงบวกจากคาดการณ์แนวโน้มยอดส่งออกถุงมือยางและยางจะเพิ่มขึ้น (จากนโยบายกีดกันการค้าที่จะเข้มงวดขึ้นของสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าถุงมือยางจากจีน)
JTS +3.94% หุ้นกลุ่มอิง Crypto currency มีเซนติเมนต์บวกจากราคา Bitcoin ทำราคา All time high ทะลุเหนือ 75,000 ดอลลาร์ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง (ทรัมป์มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม Crypto currency)
ด้าน GULF -2.64%, GPSC -1.74% หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลงรับเงินบาทที่อ่อนค่าแรงวันนี้ โดยล่าสุดอยู่ที่ 34.14 บาทต่อดอลลาร์ จากในตอนเช้าที่ 33.55 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับมูลค่าการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนราย่อย ซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,037.56 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิหุ้นไทย 78.53 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิหุ้นไทย 1,782.31 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิหุ้นไทย 333.77 ล้านบาท