ดร.กอบศักดิ์ มองการกลับมาของทรัมป์ หลังชนะเลือกตั้งสหรัฐ โลกต้องปรับรับ America First-สงครามการค้า แต่ลดสงครามจริง เชื่อไทยรับมือได้ ต้องเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี แก้ปัญหาโลกร้อน และแข่งขันในตลาดอาเซียนด้วยกัน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการ รองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 หัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจมหภาคปี 2025” ว่า การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลกใหม่ภายใต้ผู้นำโลกคนใหม่ ภายหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
โดยนโยบายของทรัมป์ที่ได้บอกไว้ว่าจะทำในช่วงต้น สหรัฐอเมริกาจะต้องมาก่อน (America First) อย่างภายในประเทศ ทรัมป์ตั้งใจที่จะปิดพรมแดน, ลดการจัดเก็บภาษีภายในประเทศ และมีแนวคิดการเพิ่มสัดส่วนการขุดน้ำมันเพื่อบริโภคใช้เอง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแนวคิดที่ไม่เชื่อว่าภาวะโลกร้อนนั้นมีจริง ซึ่งจะนำไปสู่นโยบายสหรัฐที่มีต่อโลก โดยเฉพาะข้อตกลงและข้อสัญญาต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ที่ส่วนใหญ่จะทำให้สหรัฐเสียเปรียบ ในขณะที่มาตรการกำแพงภาษีนั้นเป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์จะขึ้นภาษีนำเข้า 20-30% โดยเฉพาะกับประเทศจีนอาจจะขึ้นสูงถึง 60% ซึ่งจะทำให้เกิดสงครามทางการค้า (Trade war) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะเดียวกันทรัมป์ยังส่งสัญญาณชัดเจนในการสนับสนุนตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ทำให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิด Crypto Capital of The World หรือเมืองหลวงของการซื้อขายของโลก ส่วนนโยบายทางด้านการทหาร ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณชัดเจนที่ระบุเอาไว้ว่าในสมัยที่ตนเองดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแทบจะไม่มีสงคราม
ทรัมป์จึงส่งสัญญาณชัดเจนที่จะยุติสงครามที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยดึงเอาสหรัฐออกจากการมีส่วนร่วมต่อความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทั่วโลก ซึ่งนโยบายทั้งหมดนั้นจะทำให้สหรัฐกลายเป็นประเทศมองเข้าสู่ตัวเอง คิดถึงตัวเองอย่างเดียว ไม่ได้มองโลก
ทั้งนี้ ภายหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐไม่กี่วัน หลากสินทรัพย์ผันผวนต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นสหรัฐ อย่างดัชนี Dow Jones นิวไฮทุกสัปดาห์ ทะลุ 44,000 จุด ดัชนี Nasdaq ขึ้นมาประมาณ 19,000 จุด ขณะที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสูงเกือบ 90,000 ดอลลาร์ และมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านราคา Gold ไม่ได้ปรับขึ้นสูงมากนัก หลังทรัมป์ประกาศไม่ให้เกิดสงคราม ซึ่งจะส่งผลกระทบกับราคาทองคำ รวมค่าเงินในสหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
ส่วนไทยจะเตรียมการรับมืออย่างไรนั้น ยังเชื่อว่าไทยสามารถบริหารจัดการได้ ส่วนจะเตรียมการอย่างไรให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงบริบทเศรษฐกิจโลกใหม่จะมองแค่ 4 ปีไม่ได้ แต่ต้องมองให้ทะลุหลังปี 2029 หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ หมดวาระ ทำให้โจทย์ของไทยคือเตรียมการรับมือจากที่ทรัมป์วางมือไปแล้วอย่างไร
“สิ่งที่เราควรทำ ไทยควรทำเรื่องสำคัญ โจทย์ของเรา เศรษฐกิจไทยโตช้าลงเรื่อย ๆ จึงควรมาคิดว่า ทำอย่างไรให้ไทยโตขึ้นอีกครั้ง จะปรับโครงสร้างอย่างไร และต้องเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และแก้ปัญหาโลกร้อน และการแข่งขันในตลาดอาเซียนด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดคือ การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่รัฐบาล และบริษัทต่าง ๆ ต้องช่วยกัน”