
ย้อนรอยยุคทองบนเส้นทางวงการบันเทิงของ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ และบทบาททางการเมืองที่แม้ว่าจะผันตัวเข้ามาได้เพียง 7 ปี ก็สังกัดไปแล้ว 4 พรรค พร้อมส่องพอร์ตธุรกิจทั้ง 7 บริษัท รวมถึงปมเอี่ยวคดีเงิน ๆ ทอง ๆ ทั้งคดีฟอกเงิน เปิดบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต และรีดทรัพย์กว่า 20 ล้านบาท
“ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” นักแสดงและนักร้องชื่อดังในตำนาน ที่เคยมีอิทธิพลอย่างมากในวงการบันเทิง รวมถึงการมียุคทองเป็นของตัวเองในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ด้วยกรณีข่าวฉาววงสังคมเป็นเหตุให้ต้องหายไปจากวงการเกือบ 2 ปี ก่อนจะหวนกลับมาชิมลางด้วยผลงานเพลงและละครอีกไม่กี่เรื่อง และผันตัวไปสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัว พร้อมทั้งประกอบธุรกิจของตัวเองควบคู่ไปด้วย
ซึ่งจากกรณีการออกมาเปิดโปงของหนุ่ม กรรชัย เรื่องคลิปเสียงรีดทรัพย์ของฟิล์มและนักร้องเรียนสาว จากหนึ่งในผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ทำให้ฟิล์มกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟิล์มมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับคดีเงิน ๆ ทอง ๆ
‘ประชาชาติธุรกิจ‘ พาย้อนดูเส้นทางการทำงาน พอร์ตธุรกิจ และคดีที่ฟิล์มเคยมีประเด็นตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา
ยุคทองบนเส้นทางบันเทิง
“ฟิล์ม รัฐภูมิ” เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ, ระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์สื่อดิจิตอล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม และระดับปริญญาโท คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ฟิล์มเริ่มต้นเส้นทางวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักร้องวงบอยแบนด์ G-BOYZ สังกัด GMM Grammy ร่วมกับเป็ก ผลิตโชค และแบงค์ พิสิษฐ ก่อนจะย้ายไปเป็นนักร้องเดี่ยวภายใต้สังกัด RS ออกผลงานอัลบั้มเดี่ยว จนมีชื่อเสียงขึ้น ทำให้มีผลงานเพลงทยอยปล่อยตามกันมาติด ๆ
ก่อนจะตอกย้ำความดังด้วยการร่วมงานกับ 2 นักแสดงสาวชื่อดัง อย่างโฆษณา Honda Wave125 คู่กับ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ และละครเรื่อง “รักจัง” ร่วมแสดงกับพอลล่า เทเลอร์

สำหรับผลงานการแสดง ฟิล์มได้เล่นละครและภาพยนตร์มากมาย อาทิ เสน่ห์นางงิ้ว, มนต์รักข้าวต้มมัด, Daddy Duo คุณพ่อจอมเฟี้ยว, ปีศาจแสนกล, แผนร้ายพ่ายรัก, นางมาร, The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2 ปล้นนะยะ 2 (2555), สตรีเหล็กตบโลกแตก (2557) อีกทั้งยังมีผลงานในบทบาทพิธีกร อาทิ Musica, ท่องโลกวัยมันส์, Chillout เพื่อนเดินทาง, ดาวประจำเมือง, เรื่องร้อนรายวัน และ Classic Boy
เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลารุ่งโรจน์ของฟิล์มกับวงการบันเทิงตลอด 19 ปี และเป็นยุคทองของเขาเลยก็ว่าได้ ก่อนจะร่วงลงมาด้วยข่าวฉาวทอล์กออฟเดอะทาวน์ในปี 2553 กรณีถูกอ้างว่าเป็นพ่อของลูกในท้องแอนนี่ บรู๊ค อดีตนักแสดงและนางแบบสาว
ถึงแม้ว่าฟิล์มจะออกมาแถลงยอมรับว่าเคยคบ และปฏิเสธรับเด็กในท้องเป็นลูก ก็ไม่ได้ทำให้กระแสสังคมเบนทิศ สุดท้ายกระแสก็หายไปพร้อมกับการลาบวช และยุติผลงานการแสดง รวมถึงไปเรียนต่อต่างประเทศของเขาเป็นเวลา 2 ปี
4 ปี 4 พรรคการเมือง
หลังจากนั้นก็กลับมาพร้อมกับผลงานเพลง “Happy hurt Day” และแสดงละครอีกหลายเรื่อง แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก ฟิล์มจึงผันตัวเข้าสู่สนามการเมือง พร้อมทั้งประกอบธุรกิจของตัวเอง โดยเริ่มต้นสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท เมื่อปี 2561 และได้รับเลือกให้เป็นรองโฆษกพรรค ก่อนจะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งและสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท ทำให้พ้นจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคในปี 2562
ต่อมาในช่วงเดือนสิงหาคม ฟิล์มตัดสินใจสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยแบบตลอดชีพ พร้อมดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ก็ได้ส่งจดหมายลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคล้อยหลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพื่อย้ายตามไปพรรคไทยสร้างไทย ก่อนจะลาออกไปโดยไม่แจ้งเหตุผลในอีก 2 ปีต่อมา
และภายหลังการลาขาดจากคุณหญิง ฟิล์มก็ได้เข้าสังกัดสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในตำแหน่งทีมโฆษกพรรคจนถึงปัจจุบัน และเคยลงสมัคร สส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต 22 ในปี 2566 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

บทบาทนักธุรกิจ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’
ถึงแม้ว่าฟิล์มจะเดินบนเส้นทางในวงการบันเทิงกว่า 19 ปี และลงสนามการเมืองมา 7 ปีที่ดูเหมือนว่าจะทุ่มเทแบบสุดตัว แต่เขาก็ยังประกอบธุรกิจอื่นควบคู่ไปด้วย จากการตรวจสอบผ่าน Creden Data พบว่า ฟิล์มถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 7 บริษัท และมีมูลค่ารวมกว่า 6,061,427 บาท
1.บริษัท โชคดีมีสุข จำกัด-ธุรกิจซื้อขาย ให้เช่าเทปบันทึกภาพ บทประพันธ์ละครและภาพยนตร์
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 2 ด้วยจำนวน 6,000 หุ้น มูลค่า 3,249,155 บาท
2.บริษัท ชีลเอ๊าท์เลเชอร์ จำกัด-ธุรกิจกิจการนำเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเที่ยวทุกชนิด สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 1 ด้วยจำนวน 7,000 หุ้น มูลค่า 1,905,650 บาท
3.บริษัท 1984 กรุ๊ป จำกัด-ธุรกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 1 ด้วยจำนวน 9,998 หุ้น มูลค่า 886,323 บาท
4.บริษัท เอสพีที อิเลคทริค แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด-ธุรกิจการผลิตอุปกรณ์ควบคุมและจ่ายไฟฟ้า
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 1 ด้วยจำนวน 4,950 หุ้น มูลค่า 20,270 บาท
5.บริษัท อีเทอร์เวลธ์ จำกัด-ธุรกิจจัดประชุม สัมมนา
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 3 ด้วยจำนวน 1 หุ้น มูลค่า 29 บาท
6.บริษัท ฟู้ด คอร์ท จำกัด-ธุรกิจให้จำหน่าย อาหาร เครื่องดื่ม
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 2 ด้วยจำนวน 4,000 หุ้น มูลค่า 0 บาท
7. บริษัท ดอกเตอร์ สกิน แลบบอราทอรีส์ จำกัด-ธุรกิจการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางการแพทย์
สัดส่วนการถือหุ้น : อันดับ 1 ด้วยจำนวน 49,000 หุ้น มูลค่า 0 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าเคยเป็นกรรมบริษัทและผู้ถือหุ้น 6 บริษัท แต่ปัจจุบันมีสถานภาพกิจการร้าง ได้แก่
- บริษัท เฮงวูน จำกัด
- บริษัท เพย์ ออล จำกัด
- บริษัท มนต์พฤกษา จำกัด
- บริษัท โอเพ่น มายด์ โซลูชั่น จำกัด
- บริษัท ทริปบัดดี้ จำกัด
- บริษัท เดอะ เพอร์เฟค จำกัด
เอี่ยวปมเงินร้อน ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’
จากกณีที่หนุ่ม กรรชัย จะออกมาแฉคลิปเสียงการรีดทรัพย์ โดยแอบอ้างรายการโหนกระแส ทำให้ฟิล์ม รัฐภูมิตกเป็นประเด็นอีกครั้งสำหรับเรื่องราวเงิน ๆ ทอง ๆ และเมื่อย้อนกลับไปในช่วงเวลา 5-6 ปีที่แล้วจะพบว่าฟิล์มถูกเกี่ยวโยงในคดีเกี่ยวกับเงินอยู่ 3 ครั้งด้วยกัน
บริษัทบัตรเติมเงิน
ฟิล์ม, ศราวุฒิ นนทะภา, ธเนศ จัตวาพรพานิช, ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ชื่อ “เพย์ออล” (Payall) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559-20 กุมภาพันธ์ 2560 โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ต่อมาในปี 2561 ศาลจึงพิพากษาปรับบริษัท เพย์ออล ฯ จำเลยที่ 1 จำนวน 2 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท
แต่จำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปี และต้องมารายงานตัว 1 ปี และบำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง
ForeX-3D
กลับมาตกเป็นข่าวอีกครั้งในอีก 5 ปีต่อมา เมื่อฟิล์มเป็น 1 ใน 8 พยานของคดีฟอกเงินธุรกิจ Forex-3D ที่มีดารา นักแสดง และคนในวงการบันเทิงหลายคนถูกจับ กลายมาเป็นคดีสุดอื้อฉาวเมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ อภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร พบหลักฐานว่าอภิรักษ์ได้โอนเงินจำนวน 81,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารของ ฟิล์ม รัฐภูมิ เมื่อวันที่ 6 กันยายน
นอกจากนี้ บริษัท มี ดี เพย์ จำกัด ได้ดำเนินการโอนเงิน 6,000,000 บาทเข้าบัญชีธนาคารของฟิล์มที่ดำรงตำแหน่งกรรมการเช่นเดียวกัน วันที่ 18 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2562 รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 6,081,000 บาท
ต่อมาฟิล์มได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ในฐานะพยาน พร้อมรวบรวมข้อมูลยืนยันสัญญาการซื้อขายจ้างงานชัดเจน เนื่องจากทีมงานของอภิรักษ์ติดต่อว่าจ้างให้ทำเกมโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งมีเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าจ้าง และตนได้ทวงถามหลายครั้ง เนื่องจากตอนนั้นเงินขาดมือ เนื่องจากการขาดทุนของธุรกิจ
ก่อนจะทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท แต่มีบางส่วนที่โอนถึงตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายเรียกมาชี้แจง ซึ่งเงินบางส่วนที่โอน เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม ไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะผู้ที่ทำธุรกิจจะทราบดี และมีการแจ้งเพิ่มเติมว่า อภิรักษ์ยังค้างจ่ายเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งจากการให้ปากคำนี้ทำให้พ้นจากการเกี่ยวโยงกับคดีฟอกเงินนี้
The Icon Group
และกรณีล่าสุด “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้ออกมาแฉคลิปเสียงฟิล์ม รัฐภูมิ กับนักร้องเรียนสาว ในบทสนทนาเชิงรีดทรัพย์ 1 ในบอสของดิไอคอนกรุ๊ป กว่า 20 ล้านบาท และแอบอ้างชื่อรายการโหนกระแส ซึ่งหนุ่มก็ได้ส่งข้อมูลให้ทนายแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยทันทีที่คลิปเสียงเผยแพร่ออกมา ฟิล์มก็ตกเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ฟิล์มก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงยอมรับว่าเป็นเสียงของตัวเองจริง ๆ แต่ใช้การตัดต่อร่วมด้วย เสียงในบทสนทนาจึงไม่ใช่การรีดทรัพย์ พร้อมแจงว่าเป็นเพียงการพรีเซนต์งานในฐานะบริษัทรับทำ PR ซึ่งท้ายที่สุดแล้วตนก็ไม่ได้ร่วมงาน และไม่เคยได้รับเงิน และขอโทษหนุ่มที่แอบอ้างชื่อ