
ทีคิวเอ็ม 9 เดือนแรกปีนี้ รายได้ทะลุ 3 พันล้าน เป็นครั้งแรก มีกำไรสุทธิ 672 ล้านบาท โต 9.6% ยอดขาย “ประกันรถยนต์อีวี” เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า พอร์ตประกันรถยนต์มีการต่ออายุประกันมากกว่า 70% เตรียมบุกตลาดประกันชีวิต ฟาก “อีซี่ เลนดิ้ง” มีแผนขายหุ้นกู้ให้แก่ PP ไม่เกิน 600 ล้าน รองรับการโตของธุรกิจ
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมประกันภัยมีความมั่นคงมากขึ้น และมีโมเมนตัมที่ดี โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง และรายได้จากการให้บริการขยายตัวได้ดี ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตแบบ Organic ของผลิตภัณฑ์ประกัน โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ด้วยอัตราการต่อประกันที่สูง จากลูกค้าที่ไว้วางใจและได้รับความสะดวกสบายในการต่ออายุประกัน
อีกทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตจากลูกค้าใหม่เช่นกัน รวมไปถึงประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตต่อเนื่องมาทุกไตรมาส โดยใน 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมียอดขายเบี้ยประกันรถ EV เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามแนวโน้มความนิยมรถ EV ในไทย
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2567 รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 10.8% และช่วง 9 เดือนแรกรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 8.4% มีรายได้รวมแตะระดับเกิน 3 พันล้านบาท เป็นครั้งแรก อยู่ที่ 3,043.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยประกันรถยนต์ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าดี มีการต่ออายุประกันมากกว่า 70% และยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น จากการที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งตรงความต้องการ เหมาะกับลูกค้า segment ใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมทีมขายทุกช่องทางรองรับช่วง High season ของธุรกิจประกัน ในไตรมาส 4 ทั้งการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของทีมงานให้สามารถพร้อมบริการลูกค้าอย่างเต็มที่
TQM ยังเริ่มบุกตลาดประกันชีวิตรายเดี่ยว ต่อยอดจากฐานลูกค้าประกันวินาศภัยในปัจจุบันของบริษัทที่มีอยู่กว่า 3 ล้านราย โดยมีเป้าหมายไปจนถึงสิ้นปี 2568 คาดว่าจะทำยอดเบี้ยประกันประมาณ 2,000 ล้านบาท TQM เชื่อว่าช่วงไตรมาส 4 นี้ ที่ลูกค้ามองหาผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี จะเป็นจังหวะเหมาะสมในการรุกตลาดประกันชีวิตเพื่อนำเสนอตัวเลือกประกันที่หลากหลายให้กับลูกค้า
อีกทั้งยังมี TQC ที่เป็นที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพและเคลมประกันให้กับลูกค้า ช่วยรองรับการให้บริการอย่างครบวงจร ยิ่งไปกว่านี้ TQM ยังบุกช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง และชำระเงินผ่านออนไลน์ทั้งหมดโดยไม่ต้องติดต่อกับพนักงาน และนอกเหนือไปจากการขาย TQM ยังใช้ช่องทางออนไลน์สำหรับการบริการลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วอีกด้วย
นอกจากนี้ กำไรที่เติบโต ยังมีส่วนมาจากบริษัทในกลุ่มที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น และในไตรมาสนี้ ได้รวมผลการดำเนินงานของบริษัท มายกรุ๊ป อินเทลลิเจนท์ จำกัด เข้ามาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในปี 2567 คาดว่ามายกรุ๊ปจะทำกำไรได้มากกว่า 70 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการทางการเงิน ที่ดำเนินการโดย บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด เติบโตต่อเนื่อง และบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อได้ดี โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ปี มีหนี้เสีย (NPL) ต่ำกว่า 0.50% โดยสินเชื่อเพื่อการซื้อประกัน ยังเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ความเสี่ยงต่ำ มีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจประกันเติบโตได้อีกทาง
อีกทั้งยังเสริมด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่น ๆ ที่ทำให้บริหารความเสี่ยงได้เหมาะสม รวมถึงสินเชื่อที่มีหลักประกันความเสี่ยงต่ำ เช่น ทอง และสินค้า Luxury สามารถบริการลูกค้าได้หลากหลาย และล่าสุด อีซี่ เลนดิ้ง มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท ในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ