หุ้นกลุ่ม ปตท.กำไร Q3 ร่วงหนัก “โรงกลั่น-ปิโตรฯ” ฉุด-ลุ้นปลายปีฟื้น

downPTT

ส่องหุ้นกลุ่ม ปตท. 8 บริษัท กำไร 9 เดือนปี 2567 กว่า 1.33 แสนล้านบาท ลดลง 18.6% ปมขาดทุนสต๊อกน้ำมัน “บล.กสิกรไทย” ชี้ไตรมาส 3 ตัวแดงทุกบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจ “โรงกลั่น-ปิโตรเคมี” ตัวฉุด ขณะที่ “PTTGC” ติดลบหนักเจอตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ 2 รายการใหญ่

คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ธุรกิจ “โรงกลั่น-ปิโตรเคมี” ฟื้นรับค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น-ขาดทุนสต๊อกน้ำมันน้อยลง ฟาก “บล.เอเซีย พลัส” คงคาดการณ์กำไร ปตท. สิ้นปีนี้ 8.7 หมื่นล้าน ลดลง 21.9% แต่ราคาหุ้นดาวน์ไซด์จำกัด-อัตราเงินปันผลตอบแทนระดับดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นกลุ่ม ปตท. จำนวน 8 บริษัท แจ้งงบการเงิน งวดไตรมาส 3/2567 (ก.ค.-ก.ย.) และงวด 9 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ได้แก่ 1.บมจ.ปตท. (PTT) 2.บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 3.บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 4.บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) 5.บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) 6.บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)

7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ 8.บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) โดยงวดไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิรวมกัน 4,757 ล้านบาท ลดลง 93.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) และลดลง 93.2% จากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ขณะที่ 9 เดือน มีกำไรสุทธิรวมกันที่ 133,637 ล้านบาท ลดลง 18.7% YOY (ดูตาราง)

กราฟฟิกหุ้น ปตท.

นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า งวดไตรมาส 3 หุ้นกลุ่ม ปตท. กำไรลดลงทุกบริษัท ทั้ง YOY และ QOQ แต่ 3 บริษัท คือ PTT, PTTEP, GPSC ถือว่ากำไรออกมาตามคาดการณ์ของตลาด หรือสูงกว่า แต่บริษัทในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีส่วนใหญ่กำไรออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดทั้งหมด

ADVERTISMENT

“ผลประกอบการติดลบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PTTGC ที่มีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ 2 รายการใหญ่ในกลุ่มบริษัท Vencorex และบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล ขณะที่กำไรสุทธิเฉพาะของ PTT ธุรกิจก๊าซไม่ได้แย่ ยังเติบโต QOQ ซึ่งเป็นผลมาจากไตรมาส 2/2567 มีผลกระทบจากนโยบายโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ (Single Pool Gas Price) และประเมินแนวโน้มช่วงไตรมาส 4/2567 เชื่อว่าจะดีขึ้นอีก เพราะผลกระทบ Single Pool จะลดลง ประกอบกับต้นทุนก๊าซน่าจะลดลงด้วย”

นายจักรพงศ์กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2567 กำไรในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะว่าตอนนี้ค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น และผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock Loss) น่าจะน้อยลง หรือมีโอกาสปรับเป็นกำไร (Stock Gain) ได้เล็กน้อย เพราะมีการ Mark to Market ต้นทุนไว้แล้วในไตรมาส 3/2567

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม กำไรธุรกิจหลัก (Core Earning) ของกลุ่มปิโตรเคมียังแย่ แต่แนวโน้ม PTTGC จะตั้งด้อยค่าสินทรัพย์น้อยลง แต่ก็ยังมีอยู่ และอาจจะต้องบันทึกผลกระทบ Single Pool ที่ ปตท.กำลังพูดคุยให้จบภายในสิ้นปีนี้

“เราเชื่อว่าไตรมาส 4 ผลของ Stock Loss จะน้อยลง Operation ดีขึ้น ฉะนั้น บริษัทลูกน่าจะดีขึ้นได้ โดยกำไรที่ฟื้นตัวดีสุด คือกลุ่มโรงกลั่น เพราะติดลบหนักในไตรมาส 3 ส่วนที่กำไรดีสม่ำเสมอ คงเป็น PTTEP คาดไตรมาส 4 วอลุ่มจะขึ้นราว 12-13% และ PTT น่าจะฟื้นตามบริษัทลูกและธุรกิจก๊าซ”

ทั้งนี้ คาดการณ์ทิศทางราคาน้ำมันในไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 70-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยตอนนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรล และค่าการกลั่น (GRM) คาดว่าจะอยู่ที่ 4-5 เหรียญสหรัฐ อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 เหรียญ

“ดูแล้วเป็นทิศทางกลาง ๆ อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์กำไรสุทธิของหุ้นกลุ่ม ปตท.ในสิ้นปีนี้ ยังอยู่ระหว่างปรับประมาณการใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทยอยปรับลดประมาณการกำไรลงต่อเนื่อง แต่ละบริษัทปรับลดลงเฉลี่ย 30-50% ยกเว้น PTT ที่มีการปรับประมาณการกำไรขึ้น จากก่อนหน้าที่ได้มีการใส่ผลกระทบ Single Pool ไปค่อนข้างมาก”

นางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า PTT กำไรสุทธิไตรมาส 3 ถูกกดดันหลักจากรายการพิเศษแล้วพลิกกลับเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษรวม 6 ล้านบาท จากงวดก่อนหน้าที่สุทธิเป็นรายได้พิเศษรวม 1.1 หมื่นล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ลดลง 34.4% QOQ มาอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ถูกกดดันจากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจของ PTT

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 คาดกำไรปกติจะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3 โดยความคาดหวังจะอยู่ที่กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นการเข้าสู่ช่วงที่ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นตามฤดูหนาว

รวมถึงความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพื่อทำของขวัญในช่วงเทศกาลปลายปีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเริ่มสะท้อนให้เห็นได้จากค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ นับตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 4 ถึงปัจจุบัน (QTD) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 4.9 เหรียญต่อบาร์เรล ดีขึ้นจากค่าเฉลี่ยในงวด 3 ที่ 3.5 เหรียญต่อบาร์เรล

รวมไปถึง PTTEP ที่คาดจะได้รับอานิสงส์หลักจากปริมาณขายที่่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยและต้นทุนที่ลดลง ขณะที่ธุรกิจก๊าซลุ้นประคองตัวได้ แม้ปริมาณขายจะลดลงตามฤดูกาล แต่ได้ต้นทุนเนื้อก๊าซที่ลดลงมาช่วยพยุงไว้

“บล.เอเซีย พลัส คงประมาณการกำไรสุทธิ PTT ปีนี้อยู่ที่ 8.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 21.9% YOY และปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2568 ที่ราคา 38 บาทต่อหุ้น ทางด้านพื้นฐานเชื่อว่าราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับฐานสะท้อนปัจจัยกระทบต่าง ๆ จนมีดาวน์ไซด์ที่จำกัดมากขึ้นแล้ว ประกอบกับทิศทางกำไรรายปียังคงมีความแข็งแกร่งจากการเป็น Holding Company อีกทั้งยังให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับที่ดี”