
หุ้นโรงพยาบาล แจ้งรายงานงบการเงิน งวดไตรมาส 3/2567 และงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมในส่วนของโรงพยาบาล 5 แห่ง ที่น่าสนใจ โดยแต่ละบริษัทมีผลประกอบการ ดังต่อไปนี้
บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH)
BH รายงานรายได้รวมของไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 6,447 ล้านบาท ลดลง 4.9% จาก 6,775 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 ขณะที่กําไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2567 มีจํานวน 1,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1,954 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 ส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิเป็น 30.3% ในไตรมาส 3 ปี 2567 เทียบกับ 28.8% ในไตรมาส 3 ปี 2566
สําหรับ 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 19,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จาก 19,010 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 โดยกําไรสุทธิใน 9 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 11.1% เป็น 5,872 ล้านบาท จาก 5,286 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 ส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิเป็น 30.4% ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 เทียบกับ 27.8% ใน 9 เดือนแรกของปี 2566
บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS)
BDMS มีผลดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 28,536 ล้านบาท
เติบโต 7% จากไตรมาส 3/2566 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาล 6% เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย 6% และรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ 8% จากไตรมาส 3/2566
บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 7,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาส 3/2566 จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ ประกอบกับการลดลงของดอกเบี้ยจ่าย จากการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมมีจำนวน 81,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จาก 9 เดือนของปี 2566 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาล 8% โดยมีการเติบโตที่ดีจากรายได้ผู้ป่วยชาวไทย 7% และรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ 10% จาก 9 เดือนของปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 19,664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% และมีกำไรสุทธิจำนวน 11,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จาก 9 เดือนของปี 2566
บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG)
THG มีผลการดำเนินงานในงวด 3 เดือน รายได้รวมของไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 2,526 ล้านบาท ลดลง 7.8% จาก 2,739 ล้านบาท โดยรายได้จากกิจการโรงพยาบาลลดลง 9.0% โดยสาเหตุหลักจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง ซึ่งมีรายได้ลดลง 51.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นจากการเปิดร้านขายยาทีเอช เฮลท์ ฟาร์มา (TH Health Pharma) ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และการเติบโตของรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่พักอาศัยครบวงจรสำหรับผู้สูงอายุและครอบครัว มียอดโอน 3 ห้อง ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่ายอดโอนของปีที่ผ่านมา
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 7,225 ล้านบาท ลดลง 7.3% จาก 7,790 ล้านบาท กำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทใหญ่แสดงผลขาดทุนสุทธิจำนวน 303 ล้านบาท (อัตราขาดทุนสุทธิ 4.2%) ลดลง 146.7% จากกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2566 จำนวน 649 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 8.3%)
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ THG จะมีกำไรสุทธิบริษัทใหญ่ จำนวน 83 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 1.1%) ลดลง 87.2% จากงวด 9 เดือน ปี 2566 ที่มีกำไรจำนวน 649 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 8.3%)
บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9)
PR9 แจ้งผลประกอบการสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,235.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จาก 1,078.2 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2566 และมีกำไรสำหรับงวด 3 เดือนในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 208.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 16.8% จากรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 48.5% จาก 140.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 13.0% จากรายได้รวมของไตรมาส 3 ปี 2566
ส่วนผลประกอบการสำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 3,414.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จาก 3,061.7 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 และมีกำไรสำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 506.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 14.8% จากรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 36.9% จาก 369.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร 12.1% จากรายได้รวมของงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566
บมจ.โรงพยาบาลราชธานี (RJH)
RJH มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 213.75 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 27% ปรับตัวดีขึ้นทั้งจำนวนเงินและอัตรากำไรสุทธิ อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เติบโตดีขึ้น ตลอดจนผลประโยชน์ทางภาษี BOI โดยรายได้จากกิจการโรงพยาบาล ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 793.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อน 14% และเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับไตมาสเดียวกันของปีก่อน