
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน เตรียมแถลงความพร้อมอุตสาหกรรม “เปิดตัว กองทุน TESG” ปี 67 ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) พร้อม บลจ.กว่า 16 แห่ง ชูความโดดเด่นลดหย่อนภาษีไม่เกิน 3 แสนบาท ระยะเวลาถือครอง 5 ปี หวังดันเม็ดเงินลงทุนสิ้นปีแตะ 3 หมื่นล้าน ด้านโบรกฯคาดหนุน SET Index ได้ระดับ 5-8%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เตรียมแถลงความพร้อมของอุตสาหกรรมและเปิดตัวกองทุน ThaiESG ปี 2567 ในวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.15-12.00 น. ณ ห้องประชุมเสรี จินตนเสรี ชั้น 7 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีคุณชวินดา หาณรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการกองทุน และท่านผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 16 แห่ง ร่วมสนับสนุนความพร้อมในครั้งนี้
โดยกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG ในปีนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการปรับปรุงมาตรการภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุน TESG โดยขยายวงเงินลงทุนลดหย่อนภาษีสูงสุดจากปัจจุบันไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นไม่เกิน 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ จากเดิม 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ด้าน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ย. 67) มีทั้งหมด 34 กองทุน เพิ่มจากสิ้นปี 2566 จำนวน 12 กองทุน โดยเป็นกองทุนที่ขอจัดตั้งใหม่ 9 กองทุน และ 3 กองทุนเป็นกองทุนเดิมที่ขอแก้ไขโครงการเพื่อเพิ่ม class Thai ESG (ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับกองทุน Thai ESG ที่จัดตั้งใหม่) สินทรัพย์สุทธิ (NAV) 10,046 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 ซึ่งมี 5,267 ล้านบาท
ขณะที่ AIMC คาดการณ์เม็ดเงินเข้ากองทุน TESG ปีนี้สูงถึง 30,000 ล้านบาท หลังจากที่ได้มีการปรับเกณฑ์ลดหย่อนภาษีแล้ว ซึ่งมองว่าในเดือน ธ.ค. ของทุกปี น่าจะเป็นช่วงที่มีแรงซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเข้ามามากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งแรงซื้อในกองทุน TESG น่าจะมีส่วนช่วยหนุนหุ้นที่กองทุนถืออยู่ได้
โดย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดผลของเม็ดเงิน TESG ใหม่ 3-4 หมื่นล้านบาทและเข้าตลาดหุ้นในช่วง 2.5-4 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุน SET Index ได้ระดับ 5-8% โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการ TESG ใหม่ ประเมินใน 2 แง่มุม 1.หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงิน TESG ไหลเข้าในระดับสูงชอบ CPALL-GULF-ADVANC-CPN และ MINT 2.หุ้นที่คาดเม็ดเงินไหลเข้าเทียบกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูง SABINA-CK และ ERW