CIMBT ชี้ยอดรีเจ็กต์ ‘รถใหม่-เก่า’ พุ่ง ลุยตลาดจำนำทะเบียนปี’68 เป้าโต 300%

CIMBT

บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ เผยยอดรีเจ็กต์สินเชื่อมือสอง-มือใหม่สูงสุด หลังหนี้เสียพุ่ง แบงก์คุมเข้มสินเชื่อ พร้อมประเมินตลาดเช่าซื้อส่งสัญญาณฟื้นตัวไตรมาส 1-2 ของปี 2568 ตามเศรษฐกิจฟื้นตัว-ดอกเบี้ยขาลง ล่าสุดเปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ภายใต้ “สินเชื่อรถปลดล็อก” ชู ดอกเบี้ยต่ำ 0.25% ต่อเดือน ตั้งเป้าปี’68 โต 300% หรือ 3 พันล้านบาท คาด 3-4 ปีขยับสัดส่วนพอร์ตเป็น 20%

นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด บริษัทในเครือธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในปีนี้จะเห็นว่าทุกสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ปรับเพิ่มขึ้น

โดยในส่วนของรถใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 10-15% จากเดิมอยู่ที่ 5-10% และรถมือสอง 25-30% จาก 15-20% ถือว่ายอดปฏิเสธสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปี 2566 สถาบันการเงินแข่งขันปล่อยสินเชื่อโดยให้วงเงินสูง ทำให้ในช่วงตลาดมีตลาดมีปัญหา หนี้เสียเพิ่มขึ้นสถาบันการเงินทุกแห่งกลับมาเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ

อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อจะกลับมาผ่อนคลายและปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปี 2568 สอดคล้องกับเศรษฐกิจภาพรวมที่ปรับตัวดีขึ้น และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจเช่าซื้อ โดยคาดว่าในปี 2568 อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงราว 0.50-1.00% ต่อปี

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้สถาบันการเงินหันกลับมาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่การแข่งขันจะไม่เน้นปล่อยวงเงินกู้สูง และไม่ต้องวางเงินดาวน์ แต่จะเน้นปล่อยตามเซ็กเมนต์ลูกค้า และความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ

ADVERTISMENT

ซึ่งในส่วนของบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ ถือว่าคุณภาพพอร์ตสินเชื่อค่อนข้างดี โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ มนุษย์เงินเดือน และมีประวัติชำระหนี้ที่ดีตามข้อมูล บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ซึ่งฐานรายได้ลูกค้าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2 หมื่นบาทต่อเดือน แต่กลุ่มเป้าหมายจะอยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อเดือน โดยพิจารณาตามความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มที่มีประวัติ NCB มากกว่า 75% ของพอร์ต

ดังนั้น แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแแอล) ของบริษัทค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับระบบ และปรับดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเอ็นพีแอลอยู่ที่ 1.9% คาดว่าปี 2568 แนวโน้มเอ็นพีแอลจะทยอยลดลงตามคุณภาพสินเชื่อ ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้มากขึ้น โดยนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 บริษัทเริ่มปล่อยสินเชื่อรถจักรยายนต์มือสอง ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดี โดยในช่วง 8 เดือนแรกมียอดปล่อยสินเชื่อเฉลี่ย 4,000 คันต่อเดือน คิดเป็นเม็ดเงินสินเชื่อ 200 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าภายในปี 2568 บริษัทจะสามารถขึ้นเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์มือสองได้

ADVERTISMENT

“สัดส่วนการปฏิเสธสินเชื่อจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น แต่คงไม่ได้กลับมาดีเท่าเหมือนเดิม แต่ตลาดจะผ่อนคลายมากขึ้น เพราะทุกแห่งต้องกลับมาปล่อยสินเชื่อ แต่คงไม่ลุยแหลกเหมือน 1-2 ปีที่ผ่านมา ทุกคนอาจจะเลือกเซ็กเมนต์ และให้วางเงินดาวน์เพิ่มเติม รวมถึงบางแห่งอาจกลับมาใช้มาตรการปล่อยกู้ตาม LTV ด้วย“

นายเกรียงภพ ปานุราช รองกรรมการผู้จัดการ สินเชื่อการตลาดและบริหารสินเชื่อ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2567 ถือว่าค่อนข้างทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อย โดยเฉลี่ยปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1,200 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันสามารถปล่อยอยู่ที่ราว 800-900 ล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มตลาดที่คาดว่าจะปรับดีขึ้นในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี ธนาคารได้เปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ภายใต้ชื่อ “สินเชื่อรถปลดล็อก” เนื่องจากแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง 90% ของจีดีพี และสัญญาณความต้องการสินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ รวมถึงกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มีหนี้เสียค่อนข้างต่ำไม่ถึง 1% บริษัทจึงหันมาทำตลาดนี้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนราว 5% ของพอร์ตสินเชื่อรวม

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียน “สินเชื่อรถปลดล็อก” ในปี 2568 อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 300% ของปี 2567 และตั้งเป้าภายใน 3-4 ปีข้างหน้า บริษัทต้องการขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็น 20% ของพอร์ตสินเชื่อรวม หรือคิดเป็น 8,000 ล้านบาท และสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ 60% หรือ 2.4 หมื่นล้านบาท และสัดส่วนจักรยายนต์ 20% โดยคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างจะอยู่ที่ 3.8-4 หมื่นล้านบาท

“สินเชื่อจำนำทะเบียนวันนี้เราบุ๊กมาได้เพียง 5% ของพอร์ตสินเชื่อรถโดยรวม แต่ระยะข้างหน้าเรามองว่าเราจะเติบโตได้อย่างมาก และดอกเบี้ยเราต่ำที่สุดในตลาดเฉลี่ย 0.25% ต่อเดือน สำหรับสินเชื่อนำจำทะเบียนที่ไม่โอนเล่ม โดยให้เครดิตดีดอกเบี้ยเพียง 9.95% จากเพดานดอกเบี้ยสูงสุดที่ 24% ต่อปี และต่ำเมื่อเทียบที่อื่นที่คิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 15-18% ต่อปี”

สำหรับสถานการณ์สินเชื่อรถยนต์มือสอง ปัจจุบันราคาตกมาสูงสุดประวัติการณ์ ปัจจุบันลดลง 50% หากเทียบกับในอดีตที่กระทบต่อรถยึดคืน หรือรถขายทอดตลาด โดยเฉพาะรถยุโรปที่ราคาลดลงอย่างมาก เช่นเดียวกันรถมือสอง เกิน 10 ปีขึ้นไป ที่เห็นราคาปรับลดลงอย่างมาก และการปล่อยสินเชื่อยากขึ้น