หุ้นไทยวันนี้ แนวรับ 1,450 จุด DELTA ติด Cash Balance กดดันดัชนี

หุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวภายในกรอบ แนวรับ 1,445-1,450 จุด มีปัจจัยกดดันจากหุ้น DELTA ที่ติด Cash Balance ส่วนแนวต้าน 1,465 จุด ยังมีแรงหนุนกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่าหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,465-1,470 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากหุ้น DELTA ที่ติด Cash Balance ส่วนกรอบล่างมีแนวรับบริเวณ 1,445-1,450 จุด คาดยังรองรับได้ จากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ ในภาพรวม มองดัชนียังมีสัญญาณที่ดี โดยหากทะลุ 1,470 จุด จะเป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,480 จุด

แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจํากัด หลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่แล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้น
กลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐ รวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจากความกังวลนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ

ส่วนปัจจัยในประเทศมองอยู่ในช่วงปรับประมาณการของ บจ. และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YOY และ QOQ อีกทั้งมีประเด็นต้องติดตามจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันที่ 19 พ.ย. และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องคดียุบพรรคเพื่อไทย

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม

รมช.คลังเผยบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้เห็นชอบหลักการมาตรการแก้หนี้ภาคประชาชนแล้ว โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียกับ ธพ. ด้วยการพักชำระดอกเบี้ยและจ่ายเฉพาะเงินต้นเป็นเวลา 3 ปี ธปท.ขานรับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนและจัดประชุมพิจารณาปรับลดเงินนำส่ง FIDF เหลือ 0.23% นาน 3 ปี

• ม.หอการค้าไทยประเมินทรัมป์เก็บภาษีจีน 60% ขณะที่ไทยโดนหางเลข 10-15% ทำเศรษฐกิจเสียหายกว่า 1.6 แสนล้านบาท ฉุดส่งออกดิ่ง 1.52% GDP ทรุด 0.87% กระทบเครื่องใช้ไฟฟ้า-อาหาร-ยางโดยตรง แนะรัฐเร่งกระตุ้นช่วงปลายปีก่อนเศรษฐกิจไทยทรุด

ADVERTISMENT

• อสังหาฯเตรียมรับอานิสงส์ทรัมป์เอฟเฟ็กต์ คอนโดมิเนียมรอโอน 3 หมื่นล้าน จับตาจีนและไต้หวันย้ายฐานสู่ EEC กว้านซื้อที่ดินชลบุรีและระยอง ผุดโรงงานนอกพื้นที่นิคม บูมคลังสินค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย

• คลังคาดแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย ประกาศผู้ผ่านเกณฑ์เดือน ธ.ค. ส่วนเฟส 3 คาดเริ่ม เม.ย. 2568

ADVERTISMENT

• EIA เผยสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 545,000 บาร์เรล มากกว่าตลาดคาด และ Equinor ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์กลับมาดำเนินการผลิตที่บ่อน้ำมัน Johan Sverdrup (ใหญ่สุดในยุโรปตะวันตก) หลังระงับการผลิตจากปัญหาไฟฟ้าดับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

• รมว.พลังงาน สั่ง กกพ.ระงับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จหลังมีผู้โต้แย้ง มองเป็น Sentiment ลบระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า

• Nvidia เผยผลประกอบการ 3Q67 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ รายได้รวมเติบโต 94% หนุนจากธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center ที่เติบโต 112%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังอยู่ระหว่างรอดูนโยบายภาษีของทรัมป์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอดูรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติมกลยุทธ์ลงทุน จึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1.หุ้น Event Play ที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมพิจารณาออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นบาทเฟส 2, ช้อปดีมีคืน (Easy E-Receipt) แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP)

2.หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากดอลลาร์แข็งค่า/บาทอ่อนค่า แนะนำกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออก (CPF DELTA) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT)

3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YOY และ QOQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR

4.หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์ และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO