
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้ ลุ้นฟื้นตัวจากแนวรับ 1,422-1,433 จุด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,450-1,460 จุด คาดแรงกดดันจากหุ้น DELTA จะลดลง หลังราคาเจอแนวรับโซน 136-140 บาท ในขณะที่หุ้นหลักอื่น ๆ ดูเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่คาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่าหุ้นไทยวันนี้ แม้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน สร้าง Sentiment ลบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม คาดแรงกดดันจากหุ้น DELTA จะลดลง หลังราคาเจอแนวรับโซน 136-140 บาท ในขณะที่หุ้นหลักอื่น ๆ ดูเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่คาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้มองดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับ 1,433 และ 1,422 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,450-1,460 จุด
แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจํากัด หลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่แล้ว สะท้อนจากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐ รวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจากความกังวลนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ
ส่วนปัจจัยในประเทศมองอยู่ในช่วงปรับประมาณการของ บจ.และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YOY และ QOQ อีกทั้งมีประเด็นต้องติดตามลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องคดีพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครองในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy“
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
นายกฯเผยนโยบายเคลื่อนประเทศ ชี้ไทยเข้าช่วงเวลาดีที่สุดในการลงทุน เปิดแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 ด้าน ระยะสั้น-ยาว ดันอสังหาฯ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับภาคเกษตร หนุนท่องเที่ยว พร้อมลงทุนเอกชน ตอบโจทย์ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
• เครดิตบูโรเผย 3Q67 หนี้ครัวเรือนในระบบเครดิตบูโรอยู่ที่ 13.6 ล้าน เพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่หนี้ NPL ขยับเพิ่มมาที่ 1.2 ล้าน ลบ. คิดเป็น 8.8% ของสินเชื่อรวม โดยสินเชื่อบ้าน-รถบัตร-บุคคลเริ่มนิ่ง ขณะที่กลุ่ม SMEs น่าห่วงมียอดเพิ่มขึ้น 20% YOY และ 5.2% QOQ
• รมว.การท่องเที่ยวฯ มอบหมาย ททท. นำโครงการเราเที่ยวด้วยกันไปหารือกับกระทรวงการคลัง ก่อนนำเสนอบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณา โดยคาดจะเปิดให้ลงทะเบียนและเริ่มใช้สิทธิในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซั่น ปี 2568 (มี.ค.-มิ.ย.)
• วานนี้รัสเซียยิงมิสไซล์ช้ามทวีป (ICBM) โจมตียูเครน โดยเป็นครั้งแรกที่รัสเซียใช้อาวุธพิสัยไกลที่มีพลานุภาพสูงโจมตีเป็นครั้งแรก ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเผยพร้อมจะพิจารณาข้อเสนอสันติภาพ “ที่เป็นไปได้จริง” โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
• นายกฯญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 21.9 ล้านล้านเยน ครอบคลุมการปรับขึ้นค่าจ้าง, การแจกเงินสดแก่ครัวเรือนรายได้น้อย, สนับสนุนการลงทุนในเซมิฯ และ AI และอุดหนุนค่าพลังงาน
• วันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณารับ-ไม่รับคำร้องคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ปมล้มล้างการปกครอง ซึ่งกรณีรับคำร้องมองจะเป็น Sentiment ลบต่อบรรยากาศลงทุนระยะสั้น ๆ เนื่องจากคาดศาลจะยังต้องใช้เวลาพิจารณาตัดสินอีกนานหลายเดือน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังอยู่ระหว่างรอดูนโยบายภาษีของทรัมป์ ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอดูรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติมกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้น Event Play ที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมพิจารณาออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นบาทเฟส 2, ช้อปดีมีคืน (Easy E-Receipt) แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP)
2.หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากดอลลาร์แข็งค่า/บาทอ่อนค่า แนะนำกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออก (CPF DELTA) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT)
3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YOY และ QOQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR
4.หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO