
‘อีวาย’ ชี้ 87% ของ CFO และผู้บริหารด้านภาษีเชื่อว่า GenAI จะช่วยผลักดันให้ประสิทธิภาพและการปฏิบัติการด้านภาษีขององค์กรดีขึ้น ท่ามกลางต้นทุนและกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลล่าสุดจากรายงานการสำรวจ EY Tax and Finance Operations (TFO) Surveys ระบุว่า GenAI จะเข้ามาช่วยพลิกโฉมการทำงานของแผนกภาษีและการเงิน จัดการปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพ การขาดแคลนบุคลากร และการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการรายงานข้อมูลด้านภาษีที่เกิดขึ้นใหม่ รวมถึงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีขั้นต่ำทั่วโลก
ในขณะที่ 87% ของ CFO และผู้บริหารด้านภาษี กล่าวว่า GenAI จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานของแผนกภาษีและการเงินเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2023 และ 75% ระบุว่ากำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการปรับใช้ GenAI ในแผนกภาษีและการเงินขององค์กร
รายงานผลสำรวจประจำปี 2567 ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจาก CFO และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจำนวน 1,600 คน จาก 32 ประเทศ และ 18 อุตสาหกรรม โดยสรุปได้ว่าแผนกภาษีและการเงินจะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อรับมือกับปัจจัยกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบภาษีใหม่ ๆ ที่มีมากขึ้น
เกษม เกียรติเสรีกุล หุ้นส่วนและหัวหน้าสายงานบริการด้านภาษีอากร อีวาย ประเทศไทย กล่าวว่า: “GenAI กำลังเข้ามาปฏิวัติการทำงานของหน่วยงานด้านภาษีและการเงิน โดยช่วยบริหารจัดการงานด้านการจัดทำรายงานที่ซับซ้อนและต้องใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล
นอกจากนี้ GenAI ยังช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีมีทัศนคติที่มุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารเวลาเพื่อมุ่งเน้นไปที่งานด้านภาษีในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น และข้อมูลที่ประมวลผลโดย GenAI จะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรได้ แม้ผลสำรวจจะชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารหลายคนยังคงพยายามหาวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ แต่ถึงเวลาแล้วเช่นกันที่พวกเขาต้องเตรียมรับมือกับงานด้านภาษีภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อประกอบการวิเคราะห์ การตัดสินใจ และการรายงานที่เกี่ยวข้องกับภาษี จึงต้องจัดทำแผนบูรณาการการใช้งาน GenAI เพื่อสนับสนุนงานด้านภาษีได้อย่างรอบคอบ ครบถ้วน และให้ความเชื่อมั่นได้ในระดับสูง”
ต้นทุนเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมาย
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 6 ปีของการทำแบบสำรวจ ที่แรงกดดันด้านต้นทุนกลายเป็นข้อกังวลอันดับหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ โดยการลดต้นทุนของกิจการและอัตราเงินเฟ้อทำให้งบประมาณของแผนกภาษีและการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบตามมูลค่าจริงที่แผนกภาษีและการเงินมีต่อองค์กร ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่ง (49%) กล่าวว่าการจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และ 86% กำลังมองหาวิธีลดต้นทุน เพื่อให้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดสามารถถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด
แรงกดดันด้านกฎระเบียบและการรายงานผลักดันให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลและเทคโนโลยี
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า แผนกภาษีต้องเผชิญกับความจำเป็นเร่งด่วนมากขึ้นในการรับมือกับความรับผิดชอบด้านภาษีที่ซับซ้อนและต้องใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมากเพื่อประกอบการปฏิบัติการด้านภาษีใหม่ ๆ รวมถึงการยื่นภาษีและข้อมูลด้านภาษีต่าง ๆ ผ่านระบบดิจิทัลแบบทันทีทันใด และการออกใบแจ้งหนี้ หรือใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่จะบังคับใช้ในเกือบ 100 ประเทศในเวลาไม่นานหลังจากนี้ หน้าที่ความรับผิดชอบของแผนกภาษี รวมถึงการต้องปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การ เพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development-OECD) ในหลาย ๆ ประการ
อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการเงินส่วนบุคคลระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำรายการของบริษัทในเครือเดียวกันระหว่างประเทศ รวมถึง BEPS 2.0 ที่กำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกอย่างน้อยที่ 15% สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ จากผลสำรวจพบว่ามีองค์กร 42% ที่คาดว่าจะต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนมากมายเพื่อจัดทำข้อมูลสำหรับการรายงานเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศและการปฏิบัติตาม Pillar II และ 82% คาดว่าจะต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงปานกลางถึงมาก ในกระบวนการประมวลผลของข้อมูลและการจัดทำรายงานด้านภาษีขององค์กร
“แรงกดดันด้านกฎระเบียบและการจัดทำรายงานที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัญหาสำหรับแผนกภาษีและการเงิน และธุรกิจต่าง ๆ กำลังพยายามอย่างมากเพื่อนำข้อมูลและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ซึ่งการออกแบบให้หน่วยงานมี GenAI เป็นผู้ช่วย และมีบุคลากรที่สามารถใช้ GenAI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ก็จะได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานอัจฉริยะ ที่จะเต็มได้ด้วยประสิทธิภาพที่สามารถฝ่าฟันแรงกดดัน ความท้าทาย พร้อมทั้งสร้างมูลค่า และความเชื่อมั่นให้กับองค์กรได้” เกษมกล่าว
แรงกดดันด้านบุคลากรที่ส่งผลต่อแผนกภาษีและการเงินเข้าใกล้ระดับวิกฤต
ช่องว่างของบุคลากรเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญในปัจจุบัน โดย 70% ของผู้บริหารด้านภาษีและการเงิน รู้สึกถึงผลกระทบของจำนวนนักบัญชีที่เข้าสู่วงการวิชาชีพน้อยลง ในขณะที่รุ่นพี่ทยอยเกษียณอายุ ผู้บริหารกว่าครึ่งหนึ่ง (53%) กล่าวว่าพวกเขาประสบปัญหาในการรักษาและดึงดูดบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และ 62% เชื่อว่าพนักงานที่ไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเป็นกลุ่มบุคลากรที่มีความสำคัญมากขึ้น
“ปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอกับความต้องการนั้นสูงจนเข้าขั้นวิกฤต ไม่เพียงพนักงานถูกเรียกร้องให้ต้องทำงานมากขึ้นทั้งที่มีจำนวนคนน้อย ธุรกิจต่าง ๆ ยังต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีใช้เวลากับงานเชิงกลยุทธ์มากกว่างานประจำถึงสองเท่าอีกด้วย และเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ ธุรกิจหลายแห่งจึงเห็นว่าการทำงานร่วมกับผู้รับจ้างภายนอก (Out-Sourcing และ Cosourcing) เป็นอีกทางออกหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณและความจำเป็นในการลงทุนด้านเทคโนโลยีและ GenAI” เกษมอธิบาย
ผู้ตอบแบบสำรวจกว่าครึ่งหนึ่ง (55%) กล่าวว่า GenAI จะไม่นำไปสู่การลดจำนวนพนักงานแผนกภาษี แต่บริษัทจะจัดสรรเวลาของพนักงานแผนกภาษีและการเงินใหม่ เพื่อให้ทำกิจกรรมที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์และมีคุณค่าสูงขึ้น โดยลดเวลาทำงานประจำที่เป็นการกำกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบลงจากเดิม