
บล.เอเซีย พลัส เผย ช่วงที่เหลือของปี 2567 คาดเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน THAIESG ฝั่งตลาดหุ้นไม่เต็มที่ อาจถูกแบ่งไปในตลาดตราสารหนี้ครึ่งหนึ่ง มองต้นปี 2568 ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญเม็ดเงิน LTF ทั้งหมดพร้อมขายได้มูลค่า 2.4 แสนล้านบาท
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า โค้งสุดท้ายของปี นักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี อย่าลืมเข้าซื้อกองทุนประหยัดภาษี ซึ่งปีนี้มีกองทุน THAIESG เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นมาถึง 40 กองทุน และมีระยะเวลาถือครองสั้นเพียง 5 ปีเต็ม ก็สามารถขายได้ โดยมีวงเงินลดหย่อนภาษีได้ 3 แสนบาท
กลับมาในส่วนตลาดหุ้น ประเมินเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG อาจช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยได้ไม่เต็มที่ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีต่อเนื่องถึงช่วงต้นปีหน้า ด้วยปัจจัยต่าง ๆ คือ
1. เม็ดเงินมีการเอนเอียงไปเข้ากองทุน THAIESG ประเภทตราสารหนี้มากขึ้น สะท้อนได้จากกองทุน THAIESG ประเภทตราสารหนี้ มีเพียง 7 ใน 40 กองทุน แต่ติดอันดับ TOP 5 กองทุน THAIESG ที่ใหญ่ที่สุดถึง 3 กองทุน
นอกจากนี้หากพิจารณาทิศทางเม็ดเงินไหลเข้าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ก.ย. – ต.ค. 2567) พบว่ามีการไหลเข้ากองทุน THAIESG ประเภทหุ้น และประเภทตราสารหนี้เท่า ๆ กันราว 1.6 พันล้านบาท แสดงให้เห็นว่าทิศทางเม็ดเงิน THAIESG มีโอกาสไหลเข้ามาในตลาดหุ้นครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดได้
2. เม็ดเงินที่ซื้อกองทุน THAIESG บางส่วนอาจมาจากการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุ โดยเฉพาะในปี 2018 ที่สามารถขายคืนได้กว่า 7.66 หมื่นล้านบาท แม้ต้นทุนกองทุน LTF ที่ซื้อในปี 2561 ส่วนใหญ่ยังขาดทุน โดยเฉลี่ยเทียบกับ SET INDEX ที่ 1,678 จุด แต่เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปี อาจมีนักลงทุนนำเงินส่วนนี้มาสลับเข้ากองทุน THAIESG แทน ทำให้เห็นเม็ดเงินขาย LTF บางส่วนออกมากดดันตลาดหุ้น และบางส่วนสลับไปเข้ากองทุนTHAIESG ประเภทตราสารหนี้แทนอีก
3. ต้นปี 2568 ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญเม็ดเงิน LTF ทั้งหมดพร้อมขายได้ที่ 2.4 แสนล้านบาท แม้เม็ดเงิน LTF คงค้างในระบบจะลดลงมาตลอดจากปี 2562 ที่ 4.06 แสนล้านบาทและลดลงจนปี 2566 เหลือ 2.65 แสนล้านบาท ลดลงต่อจนปัจจุบัน ต.ค. 2567 เหลือ 2.4 แสนล้านบาท แต่ถ้ามองในมุมเม็ดเงิน LTF ที่พร้อมขายได้จะเห็นการเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 1.14 แสนล้านบาท, ปี 2567 ที่ 1.69 แสนล้านบาท และปี 2568 เม็ดเงิน LTF สามารถถูกขายคืนได้ทั้งหมด 2.41 แสนล้านบาท ดั้งนั้นเม็ดเงินพร้อมขาย LTF ปี 2568 ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดต่อในช่วงต้นปีหน้าได้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มักขายคืนกองทุนประหยัดภาษีในช่วงต้นปีมากสุด
“สรุป ช่วงที่เหลือของปีคาดเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน THAIESG ไหลเข้าตลาดหุ้นไม่เต็มที่ เพราะอาจถูกแบ่งเข้าไปในตลาดตราสารหนี้ครึ่งหนึ่ง รวมถึงตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุ และบางส่วนสลับเข้ามาซื้อกองทุนTHAIESG ประเภทตราสารหนี้แทน นอกจากนี้ช่วงต้นปีหน้า ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญเม็ดเงิน LTF ทั้งหมดพร้อมขายได้ที่แล้วกว่า 2.4 แสนล้านบาท”