ก.ล.ต. เร่งสรุปข้อเท็จจริงคดี “หมอบุญ” หากพบโบรกเกอร์ผิด บังคับใช้กฎหมายทันที

“เอนก” โฆษก ก.ล.ต. ชี้ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงคดี “หมอบุญ” หากพบโบรกเกอร์ผิดจะบังคับใช้กฎหมายต่อไป หรือกรณีพบว่ามีการกระทำเข้าข่ายกระทำผิดภายใต้กฎหมายอื่นจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

จากกรณีอื้อฉาวสำคัญที่เกิดขึ้นขณะนี้ หลังจากศาลอาญาออกหมายจับนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมกับภรรยา ลูกสาว และเจ้าหน้าที่โบรกเกอร์ รวมทั้งหมด 9 ราย ในข้อหาหนักร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยหมอบุญเป็นตัวการในการคิดเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน ร่างสัญญา ลงมือจ่ายเช็คทั้งหมด และได้รับประโยชน์ไป ส่วนภรรยากับลูกเป็นผู้ร่วมในการค้ำประกัน เลขาฯ 2 คน ลงนามเป็นพยาน เชื่อว่าได้รับผลประโยชน์ กลุ่มที่ 3 คือบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เป็นการนำเสนอชักชวนการลงทุน ได้เปอร์เซ็นต์จากการมาลงทุน

โดยทางพนักงานสอบสวนได้นำเสนอศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับ ในส่วนของหมอบุญเองได้ดำเนินการในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น

ผู้ต้องหาอื่น ๆ ได้ดำเนินการในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยหมอบุญพบว่าได้มีการเดินทางอยู่ต่างประเทศแล้ว ขณะที่ภรรยาและลูกสาว ล่าสุดพร้อมทนายเข้ามอบตัว โดยอ้างว่าถูกปลอมลายเซ็นเช็คค้ำประกัน-กู้เงิน ยืนยันเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

จากเรื่องที่เกิดขึ้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า พบว่านายแพทย์บุญได้กระทำในนามส่วนตัว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งยังไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ที่มุ่งเน้นการทุจริตฉ้อโกงในบริษัทที่ออกเสนอขายหลักทรัพย์กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.จะติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยหากพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ก็จะเร่งดำเนินการและประสานงานกับพนักงานสอบสวนต่อไป

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามเพิ่มเติมว่า ก.ล.ต.จะมีการตรวจสอบหรือลงโทษโบรกเกอร์ด้วยหรือไม่ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ที่โดนหมายจับในการนำเสนอชักชวนการลงทุน

เรื่องนี้ทางนายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงาน ก.ล.ต.เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อนำมาพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการต่อไป หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายภายใต้การกำกับดูแล ก.ล.ต. จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อไป หรือในกรณีพบว่ามีการกระทำเข้าข่ายกระทำผิดภายใต้กฎหมายอื่น ก.ล.ต.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ADVERTISMENT