
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเผยสถานการณ์หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ปีนี้ มีออกใหม่ 3 บริษัท วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ล่าสุด PTTGC เตรียมเสนอขายส่งท้ายปี 4-12 ธ.ค.นี้ วงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นล้าน จับตา “ANAN-TU” ครบ 5 ปีส่อไม่ Call “กรุงไทย” ชี้การออก Perp ยังเป็น Niche Market ของรายใหญ่ ส่วนรายกลาง-เล็กขายยาก
นางสาวสิรินารถ อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ในปี 2567 มี 3 บริษัท ที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) หรือ “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” โดยมีวงเงินรวมกัน 38,000 ล้านบาท คือ 1.บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) วงเงิน 15,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย 6.1% ต่อปี
2.บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) 8,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี และ 3.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่จะเสนอขายไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ในช่วงวันที่ 4-12 ธ.ค.นี้ จ่ายดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี
โดยภาพรวมทั้งปีนี้ จะมียอดคงค้างหุ้นกู้ Perp ทั้งสิ้น 137,380 ล้านบาท จำนวน 19 รุ่น จาก 14 บริษัท ซึ่งหุ้นกู้ที่ครบ 5 ปี สามารถไถ่ถอนคืนก่อนกำหนด (Call Option) ได้ มีอยู่ 3 บริษัทรวม 33,000 ล้านบาท แต่พบว่า 2 บริษัทไม่ Call คือ 1.บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) วงเงิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากเรตติ้งองค์กรลดลงเหลือ BB+ ไม่สามารถออกใหม่ เพื่อ Call ได้ เพราะตามเกณฑ์เรตติ้งต้องระดับ Investment Grade (BBB-) ขึ้นไป
และ 2.บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) 6,000 ล้านบาท จะครบไถ่ถอนวันที่ 29 พ.ย.นี้ ซึ่งบริษัทแจ้งว่า จะ Call แต่ไม่ออกใหม่ เพราะมีเงินเพียงพอไถ่ถอน
“กรณีของ ANAN มีกระแสข่าวออกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ ANAN เสนอขายนักลงทุนรายใหญ่ ค่อนข้างจำกัดกับผู้ได้รับผลกระทบตรงนี้ และวงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งทาง ANAN ยังจ่ายดอกเบี้ยอยู่เรื่อย ๆ”
นางสาวสิรินารถกล่าวว่า ปีนี้ดอกเบี้ยปรับขึ้นมาจากปีที่แล้ว เทียบกับต้นทุนดอกเบี้ยในการออก Perp รุ่นที่ผ่านมา ๆ ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ผู้ออกเดิมจึงเป็นภาวะจำยอมที่ต้อง Call และโรลโอเวอร์ต่อ เพราะเป็นภาพลักษณ์และส่งสัญญาณความเชื่อมั่นกับนักลงทุน ถึงแม้ว่าต้นทุนดอกเบี้ยสูง แต่สำหรับผู้ออกรายใหม่ที่เป็นบริษัทที่มีเรตติ้งปริ่ม ๆ Investment Grade ก็น่าจะชะลอออกไปก่อน เพื่อรอดอกเบี้ยลง
ถ้าจำเป็นต้องออก Perp ก็ค่อยหาจังหวะออกในปี 2568 แต่สำหรับ PTTGC เป็นบริษัทที่มีอันดับเครดิตเรตติ้ง A+ สามารถต่อรองดอกเบี้ยได้ ส่วนในปี 2568 จะมีหุ้นกู้ Perp ที่ครบ 5 ปีต้อง Call จำนวน 2 บริษัท คือ บมจ.แสนสิริ (SIRI) มูลค่า 3,000 ล้านบาท และ ANAN อีก 1,000 ล้านบาท
นายสงวน จุงสกุล ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจสายงานตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การออกหุ้นกู้ Perp ยังเป็น Niche Market มีขนาดกว่าแสนล้านบาท จากขนาดหุ้นกู้รวม 4.7 ล้านล้านบาท ผู้ออกยังจำกัดอยู่ในแวดวงเดิม ๆ ที่มีศักยภาพสามารถออกได้ บริษัทขนาดเล็กอาจจะออกยากและขายยาก ช่วงที่ผ่านมา ยอดคงค้างมากขึ้นส่วนหนึ่งเพราะงบดุลมีหนี้มากขึ้นจากวิกฤตโควิด จึงใช้การออก Perp มาช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (DE) แนวโน้มในอนาคตขนาดตลาดก็น่าจะยังทรง ๆ ยังคงเป็น Niche ต่อไป