สบน.ยันลดเงินนำส่ง FIDF หนุนแก้หนี้ ไม่ทำหนี้สาธารณะพุ่ง ชี้แค่ยืดชำระไปปีครึ่ง

พชร อนันตศิลป์
พชร อนันตศิลป์

สบน.เผยลดเงินนำ FIDF ช่วยแก้หนี้ ไม่กระทบทำให้หนี้สาธารณะพุ่ง ชี้มีผลแค่ยืดเวลาชำระหนี้ 1 ปีครึ่ง ภาระดอกเบี้ยเพิ่มปีละ 100-500 ล้านบาท

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลจะมีการลดอัตรานำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เหลือ 0.23% ต่อปี จากเดิม 0.46% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่มีผลต่อระดับหนี้สาธารณะไทย

ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้รับภาระการชำระหนี้ FIDF ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีมูลหนี้คงเหลือประมาณ 5 แสนล้านบาท ที่จะครบกำหนดในการชำระในปี 2575 สำหรับการลดเงินนำส่งจะส่งผลให้ระยะเวลาการชำระหนี้ยืดออกไปประมาณ 1 ปีครึ่ง คิดเป็นภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นปีละ 100-500 ล้านบาท ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

“ทาง ธปท.เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ตัวหนี้ตัวสถานะหนี้จะมาโชว์อยู่ในสัดส่วนหนี้สาธารณะเท่านั้น ดังนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใด โดยปัจจุบันระดับหนี้สาธารณะของไทย ณ เดือนตุลาคม 2567 อยู่ที่ 62.33% ต่อจีดีพี และคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 63% บวกลบ” นายพชรกล่าว

ทั้งนี้ จะมีการประเมินถึงผลกระทบลดการส่งเงินเข้ากองทุน FIDF แบบปีต่อปี ว่าช่วยประชาชนและเอสเอ็มอีได้มากน้อยเพียงใด ซึ่ง ธปท.ได้ประเมินแล้วว่าคุ้มค่า เพราะประโยชน์นี้นอกจากจะช่วยลูกหนี้แล้ว ยังสามารถกลับไปช่วยสถาบันการเงินด้วย เพราะช่วยให้ลูกหนี้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ เมื่อมีนโยบายปรับโครงสร้างหนี้