บาทผันผวน รอรับ PCE คืนนี้

Money

บาทผันผวน รอรับดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) คืนนี้

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/11) ที่ระดับ 34.63/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (26/11) ที่ระดับ 34.69/70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลงสู่ระดับ 610,000 ยูนิตในเดือน ต.ค. ดิ่งลง 17.3% เมื่อเทียบรายเดือน โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ยูนิต จากระดับ 738,000 ยูนิตในเดือน ก.ย.

ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 111.7 ในเดือน พ.ย.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 111.0 จากระดับ 109.6 ในเดือน ต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อที่ปรับตัวลง

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 6-7 พ.ย. โดยระบุว่ากรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่าเฟดอาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกมากเท่าใด อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดก็มีความเห็นตรงกันว่า นับจากนี้ไปเฟดควรจะหลีกเลี่ยงการชี้นำมากเกินไปเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต ในส่วนของสัญญาณทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26/11) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามในยูเครนและ การที่สหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีการค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยระบุถึงผลเรื่องการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด

ADVERTISMENT

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในคืนนี้ คือ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญเนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP0 ไตรมาส 3/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2)

ด้านปัจจัยภายในประเทศ นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2568 สบน.มีแผนที่จะระดมทุนผ่านเครื่องมือการออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินการกู้ชดเชยขาดดุลงบประมาณโดยคาดว่า ในระยะแรกจะออกพันธบัตรออมทรัพย์มาในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 กรอบวงเงินประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการออมให้กับประชาชน นายพชรกล่าวว่า

ADVERTISMENT

ขณะนี้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยของไทย และต่างประเทศยังห่างกันถึงเท่าตัว ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนในการระดมทุนของรัฐบาล อย่างไรก็ดี หากในอนาคตการระดมทุนในประเทศมีข้อจำกัด สบน.ก็จะมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว แต่ตามกฎหมายของ สบน. การออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ จะต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไม่สามารถระบุในแผนกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณได้

ฉะนั้นจะต้องพิจารณารายละเอียดส่วนนี้ด้วย ทั้งนี้ในระหว่างวันบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.55-34.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.55/56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/11) ที่ระดับ 1.0488/89 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (26/11) ที่ระดับ 1.0509/10 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยตลาดหุ้นยุโรปชะลอตัวในช่วงท้ายของปี ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านภาษีการค้า การใช้จ่ายที่ลดลงของจีน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในระหว่างวันบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.0488-1.0520 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0516/17 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/11) ที่ระดับ 152.77/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (26/11) ที่ระดับ 153.92/93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก หลังจากที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.45-152.82 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 151.49/51 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ของสหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัดิการว่างงานรายสัปดาห์ (27/11), ดัชนี PCE เดือน ต.ค. (27/11), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค. (27/11), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2567 (ประมาณการครั้งที่ 2) (27/11), และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ต.ค. (27/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.55/-7.40 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -6.00/-5.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ