ก.ล.ต. ชงอัยการฟ้อง “ธีรวัฒน์ แซ่ก๊วย” ต่อศาลแพ่ง สร้างราคาหุ้น THE

ก.ล.ต. ชงอัยการฟ้อง “ธีรวัฒน์ แซ่ก๊วย” ต่อศาลแพ่ง เรียกค่าปรับกว่า 18.9 ล้าน กรณีสร้างราคาหุ้น THE พร้อมส่ง ปปง. ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องนายธีรวัฒน์ แซ่ก๊วย ผู้กระทำความผิด กรณีสร้างราคาหุ้นของบริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) (THE) เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร (แล้วแต่กรณี) ในอัตราสูงสุดตามกฎหมาย

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดในกรณีสร้างราคาหุ้นของ THE โดยกำหนดให้นายธีรวัฒน์ ชำระเงินรวม 18,919,992.95 บาท (ค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด) และกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นระยะเวลา 28 เดือน

ทั้งนี้ เนื่องจากนายธีรวัฒน์ ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ซึ่งพิจารณาได้ว่า นายธีรวัฒน์ ไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีนายธีรวัฒน์ ต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งทุกมาตรการในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้นำส่งกรณีดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า “กรณีนี้ ก.ล.ต. ได้ ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดรวม 14 ราย โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ซึ่งมีผู้กระทำผิด 13 รายได้ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดทุกกรณี มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้”

ADVERTISMENT