KKP ชี้ 3 ปัจจัยท้าทายเศรษฐกิจไทย เตรียมรับมือปี’68

ดร.พิพัฒน์ KKP ชี้ ความท้าทายเศรษฐกิจไทยปี 2568 ต้องเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม-การชะลอตัวของสินเชื่อ รวมทั้งนโยบายทรัมป์ เพิ่มเก็บภาษีนำเข้า หวังนโยบายการเงิน-การคลังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยแก้ปัญหา

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยในงานสัมมนา Thailand Next Move 2025 : “Resiliency for an Uncertain World” รับมือบริบทโลกใหม่ที่ไม่นิ่ง ว่า ในปี 2568 ความท้าทายของเศรษฐกิจไทยยังมีโดยเฉพาะ 3 สิ่งที่กังวล คือ 1.กังวลเรื่องความสามารถการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย จะเห็นว่ามีสัญญาณหลายอย่างที่บอกว่าความสามารถในการแข่งขันของไทยกำลังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม หลังวิกฤตโควิด-19 ภาคอุตสาหกรรมเริ่มติดลบ ซึ่งอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ของไทย ทั้งรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี กำลังเจอปัญหา

ที่ผ่านมาเครื่องยนต์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย คือภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสิ่งที่กังวลคือแรงส่งจากภาคบริการเบาลง เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มแผ่ว โดยในปี 2023 ตัวเลขของนักท่องเที่ยว 28 ล้านคน ในปี 2024 มีตัวเลขของนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน เพิ่มมา 20-30% แต่ในปี 2025 คาดว่าจะโตเพียง 10% เพราะว่าแรงส่งเบาลง

2.การหดตัวของสินเชื่อเป็นปัจจัยที่น่ากังวล และมีโอกาสเกิดปัญหาต่อเนื่อง เป็นภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดีทำให้เราเห็นคุณภาพสินทรัพย์มีปัญหาหนี้เสีย (NPL) สูงขึ้น จะเห็นได้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อลดลง ในช่วง 15 ปีที่ผ่าน ปีนี้เป็นปีแรกที่ System Loan Growth ติดลบ ซึ่งแปลว่าสินเชื่อที่ไหลเข้าไปในระบบเศรษฐกิจน้อยลง ซึ่งจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้นเพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้ได้มากขึ้นเป็นความท้าทายที่ค่อนข้างน่าห่วงในปีหน้า 3.สุดท้ายนโยบายจากต่างประเทศ อย่างนโยบายสหรัฐที่จะเกิดสงครามการค้า และสิ่งที่จะส่งผลกับประเทศไทยซึ่งคาดเดาได้ค่อนข้างยาก เช่น ด้านภาษี ที่อาจใช้เป็นเครื่องมือการต่อรองได้

นอกจากนี้ ไทยยังคงเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย จากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจำนวนประชากรวัยทำงานกำลังลดลง ในขณะที่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น หากไม่มีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตช้าลงเรื่อย ๆ แม้ไม่สามารถเพิ่มอัตราการเกิดได้ แต่สามารถดึงความสามารถด้านอื่นมาพัฒนาประเทศได้ ทั้งสิงคโปร์ สหรัฐ โดยเปิดการเข้ามาของแรงงานในแต่ละด้านโดยเฉพาะให้ได้มากขึ้น

และความต้องการทางด้านการลงทุนเพิ่มมากขึ้น หาจุดดึงดูดให้ตลาดทุนไทยน่าลงทุนเทียบเท่ากับ 10-15 ปีที่แล้ว และทำให้มีประสิทธิภาพมากโดยต้องมีการปฏิรูปนโยบายคนเข้าเมืองเพื่อดึงดูดแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็น Technology Hub ในภูมิภาค ลดกฎระเบียบและลดการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อลดต้นทุนของการทำธุรกิจ

ADVERTISMENT

”อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีหน้านโยบายการคลังอาจจะมีการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างน่าเป็นห่วง รวมถึงนโยบายการเงินอาจจะมีส่วนเข้ามาช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย และนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจที่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างยั่งยืน“