KTC – ttb ปั๊มยอดโค้งท้าย รูดปรื๊ดปี’67 โตไม่สูง-เน้นคุณภาพพอร์ต

ธุรกิจบัตรเครดิตปี’67 โตต่ำ หลังเผชิญภาวะ “หนี้ครัวเรือนสูง-เกณฑ์ปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ” กดยอดสเปนดิ้ง “ทีทีบี-เคทีซี” เร่งกระตุ้นยอดโค้งท้าย อาศัยจังหวะฤดูท่องเที่ยว-เทศกาลลดหย่อนภาษี ฟาก “กรุงศรี-อิออน” เน้นประคองตัว-รักษาคุณภาพสินเชื่อในพอร์ต

นายจเร เจียรธนะกานนท์ ประธานกลุ่มบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธุรกิจบัตรเครดิตปี 2567 นี้ การเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Spending) ภาพรวมน่าจะอยู่ที่ราว 5% ถือว่าค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันยอด Spending

“จากข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 3/2567 ยอดสินเชื่อคงค้างบัตรเครดิตทั้งระบบหดตัว 0.4% เทียบกับไตรมาส 3/2566 ขณะที่ยอดการใช้บัตรภาพรวมในช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2567 เติบโต 2.2% มองในช่วง 2 เดือนสุดท้าย น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. เป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ดังนั้น ธนาคารจึงมีแผนกระตุ้นยอดช่วงปลายปี 2567”

ทั้งนี้ การกระตุ้นยอดจะร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ อาทิ หมวดช็อปปิ้งร่วมกับเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป และเซ็นทรัลพัฒนา มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% หมวดร้านอาหาร มอบส่วนลดสูงสุด 10% และหมวดท่องเที่ยว ร่วมสายการบินชั้นนำทั่วโลก มอบเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 8,000 บาท

โดยคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรของแบงก์ปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 25% เมื่อเทียบปีก่อน หรือยอดที่ราว 1.6 แสนล้านบาท ขณะที่ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) บริหารจัดการได้อยู่ที่ระดับ 1.3% ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ 2-3%

“เราให้สินเชื่อตามหลัก Responsible Lending ดูความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า แต่ยอมรับว่ากลุ่มลูกค้าที่ทุกแบงก์โฟกัส คือ กลุ่มที่มีรายได้ 5 หมื่นบาท เป็นตลาดหลักของทุกแบงก์อยู่แล้ว”

ADVERTISMENT

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจเจอความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซึม รวมถึงมาตรการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ทำให้วิธีการทำงานหลายอย่างถูกกระทบ

รวมถึงการแข่งขันในตลาดไม่ได้ลดลง อย่างไรก็ดี คาดว่าปีนี้เคทีซีจะเติบโตได้ 10% สูงกว่าตลาด โดยไตรมาส 4 เป็นช่วงการใช้จ่าย ทั้งในหมวดประกันและการลงทุน โดยเฉพาะกองทุน Thai ESG ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ 3 แสนบาท จะช่วยการใช้จ่ายโค้งท้ายเติบโตเกิน 10% ได้

ADVERTISMENT

นางสาวประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี กล่าวว่า คาด Spending ช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 10-11% และทั้งปีคาดจะขยายตัวประมาณ 10% โดยบริษัทยังคงจับกลุ่มที่มีความสามารถในการใช้จ่ายและมีความสามารถในการชำระหนี้

ซึ่งจะเห็นว่ากลุ่มลูกค้ารายได้ 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน เป็นกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายและเห็นการเติบโตมากกว่า 10% ขณะที่คุณภาพสินเชื่อยังบริหารจัดการได้ดี เอ็นพีแอลอยู่ในระดับต่ำที่ 1.3% ส่วนหนึ่งมาจากบริษัทมีการคัดกรองลูกค้าและดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง

“ปีนี้เราน่าจะโตได้ 10% เพราะโค้งท้ายเป็นช่วงที่มียอดการใช้จ่ายค่อนข้างดี โดยเราจะเน้นทำแคมเปญในหมวดที่มีการเติบโต เช่น ประกัน จะทำโปรโมชั่นร่วมกับค่ายประกัน โดยให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้ หมวดท่องเที่ยวร่วมกับทุกสายการบิน ส่วนหมวดช็อปปิ้งเรายังชูเรื่องของคะแนนสะสมสูง ที่เป็นจุดแข็งของเคทีซี”

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวว่า แนวโน้มการแข่งขันธุรกิจบัตรเครดิตในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ และเชื่อว่าทุกค่ายจะต้องระมัดระวังตัว แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด โดยจะเน้นทำแคมเปญใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และช็อปปิ้ง ซึ่งเป็นหมวดที่มีการเติบโตได้ดี

“ไตรมาส 4 เป็นช่วงที่มียอดใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยบวก แต่เรายังคงเน้นการเติบโตแบบคุณภาพ เพราะบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน บริษัทไม่ต้องการบุ๊กสินเชื่อเข้ามาในพอร์ตแล้วเป็นเอ็นพีแอล ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งระบบในปี 2567 จะเติบโตในระดับ 6-7%”

นายนันทวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในไตรมาส 4 นี้ บริษัทอาจจะไม่เน้นกระตุ้นยอดบัตรเครดิต เนื่องจากเศรษฐกิจภาพใหญ่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านการฟื้นตัวของรายได้ และหนี้ครัวเรือนระดับสูง

ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาครัฐ กำลังจะออกมาตรการแก้หนี้ ซึ่งจะพยายามลดหนี้ครัวเรือน ดังนั้น บริษัทจึงชะลอดู (Wait & See) และประคองธุรกิจ เพื่อรอดูทิศทางตลาดและวางเป้าหมายในปี 2568 ที่คาดว่าน่าจะปรับดีขึ้น

“ปีนี้เราน่าจะโตตัวเลขหลักเดียว ไม่เน้นเติบโตวูบวาบ และปรับแคมเปญที่ไม่ได้กระตุ้นมากจนเกินไป เน้นแคมเปญทั่วไป และเชื่อว่าที่อื่นจะทำแบบเดียวกัน เพราะกระตุ้นเยอะภายใต้เศรษฐกิจที่เป็นแบบนี้อาจจะเจ็บตัวได้ เช่นเดียวกับคุณภาพสินเชื่อเริ่มทรงตัว หากไม่มีอะไรมากระแทกน่าจะดีขึ้น”