CIMBT ลุยธุรกิจบริหารเงินคนรวย ชู กลยุทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากสูง หนุนรายได้ปี’68 โต 20%

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เผยปี’68 ตั้งเป้าโตธุรกิจบริหารความมั่งคั่งขอโต AUM 10% จากปีนี้มียอดสินทรัพย์ 4 แสนล้านบาท ชูกลยุทธ์เสนอดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์จูงใจ คาดเงินฝากโต 10% เร่งดึงลูกค้าลงทุนเพิ่ม ปลื้มธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี’67 รายได้โตสูง 35%

นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Wealth & Preferred Segment ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะมีความผันผวนมากขึ้น ทั้งจากการเมืองระหว่างประเทศ นโยบายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และดอกเบี้ยขาลง ส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นมีความไม่แน่นอนสูงมากขึ้นกว่าในปี 2567

ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนดังกล่าวในปีหน้า โดยธนาคารได้เตรียมกลยุทธ์การลงทุนสำหรับลูกค้ามั่งคั่ง (Wealth Management) ใน 2 รูปแบบ คือ 1.ลูกค้าที่รับความเสี่ยงต่ำ ป้องกันเงินต้น โดยการจำกัดความเสี่ยงให้ลูกค้า จึงแนะนำลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตร (บอนด์) ที่ความเสี่ยงน้อย รวมถึงให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ค่อนข้างจูงใจ เช่น ในช่วง 4 เดือนแรกดอกเบี้ย 2.22% และหลังจากนั้น 1.90% ต่อปี

และ 2.ลูกค้ารับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง โดยพยายามลดความผันผวน และสร้างรายได้ให้เหมาะสม ซึ่งนำเครื่องมือมาช่วยบริหารในการจัดพอร์ตการลงทุน เช่น การลงทุนในตราสารอนุพันธ์แฝง เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ 10% มียอด AUM ราว 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝาก 35% และพอร์ตการลงทุน 65% และมีฐานลูกค้าราว 1 แสนราย มีอัตราการเติบโต 11% ขณะที่รายได้จากธุรกิจเติบโตถึง 35% และรายได้จากธุรกิจประกันเติบโตขึ้นกว่า 37% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ภายหลังจากร่วมมือกับบริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เป็นปีแรก

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าการเติบโต AUM ในปี 2568 ราว 10% และรายได้อยู่ที่ 20% โดยธนาคารจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพสูง ไม่เน้นจำนวนราย ซึ่งกลุ่มที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง จะอยู่ในกลุ่มที่มีเงินฝากและการลงทุน 10-30 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกลุ่มหลักในการเติบโตของธนาคารในปีหน้า ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้ราว 7,000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 25-26% ของพอร์ต AUM

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ธนาคารจะหันไปโฟกัสเงินฝากในกลุ่มออมทรัพย์มากกว่าเงินฝากประจำ เนื่องจากเงินฝากออมทรัพย์สามารถต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ดี ธนาคารจะเน้นเงินฝากในตลาดที่สามารถแข่งขันได้ เช่น เงินฝากดิจิทัล เพื่อสร้างฐานลูกค้า Wealth ซึ่งจะเห็นว่าจากลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้เงินฝากออมทรัพย์ในกลุ่มมั่งคั่งในช่วง 10-11 เดือนแรกของปี 2567 เติบโต 34% โดยในปี 2568 ตั้งเป้าเติบโต 10% ซึ่งสัดส่วนเงินฝากปัจจุบันแบ่งเป็นเงินฝากประจำ 40% และเงินฝาก 60%

“ปีนี้ธุรกิจ Wealth เราทำได้ค่อนข้างดี รวมถึงเงินฝากด้วย ซึ่งในปี’68 แม้ว่าเราจะโตเงินฝาก 10% แต่จะระมัดระวังในเรื่องของดอกเบี้ยขาลงด้วย โดยเราจะมีกลยุทธ์ในการโยกเงินฝากที่มีฐานใหญ่มากขึ้นไปสู่การลงทุนมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาการเสนอผลตอบแทนดอกเบี้ยในกลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มีแนวโน้มสร้างรายได้ให้กับแบงก์ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า โดยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและเสนอ Bonus Rate เพิ่มให้กลุ่มนี้ เช่นที่ผ่านมาเราเพิ่ม Bonus Rate 0.35% จึงทำให้รายได้ธุรกิจ Wealth เติบโต 35%”

ADVERTISMENT