เครดิตเรตติ้งไม่สูง ก็ออกตราสารหนี้ คูปองต่ำได้ด้วยการค้ำประกันจาก CGIF

คอลัมน์ สถานีลงทุน

โดย ศิรินารถ อมรธรรม

ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (credit/default risk) ถือเป็นความเสี่ยงหลักของการลงทุนในตราสารหนี้ โดย “อันดับเครดิต” จะช่วยสะท้อนความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ได้ ซึ่งจะมีผลต่ออัตราผลตอบแทน (yield) ของหุ้นกู้แต่ละรุ่น ดังนั้นอันดับเครดิตจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพิจารณาลงทุนของนักลงทุน

สำหรับผู้ออก ยิ่งอันดับเครดิตดี อัตราคูปองก็ยิ่งต่ำ ซึ่งนั่นจะหมายถึงต้นทุนการระดมเงินทุนที่ต่ำของผู้ออก ส่วนผู้ออกที่มีอันดับเครดิตไม่ดีนักหรือไม่จัดอันดับเครดิต (non-rated bonds) ย่อมต้องจ่ายคูปองสูงกว่าสำหรับการออกตราสารหนี้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน หากต้องการจ่ายคูปองต่ำลงหรือลดต้นทุนการระดมทุนก็สามารถทำได้โดยต้องเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนว่าจะได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นคืนตามเวลาที่กำหนด ฟังดูง่ายแต่ในทางปฏิบัติจะมีวิธีทำอย่างไร ?

ผู้ออกมีอย่างน้อย 3 วิธีในการลดคูปองหรือดอกเบี้ยจ่ายในการออกตราสารหนี้ วิธีแรกคือผู้ออกจัดให้มีหลักประกันซึ่งอาจจะเป็นที่ดินหรือสังหาริมทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการชำระหนี้ตราสารหนี้รุ่นนั้น ๆ ที่เรียกว่าตราสารหนี้ที่มีหลักประกัน (secured bonds) วิธีที่สองคือตราสารหนี้ที่เกิดจากการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์โดยผู้ถือตราสารหนี้จะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืนจากกระแสเงินสดที่ได้จากสินทรัพย์ที่นำมาแปลงนั้น (securitized bonds) และวิธีสุดท้ายคือ หาผู้ที่มีอันดับเครดิตสูง ๆ มาค้ำประกันการออกตราสารหนี้ให้ (guarantee bonds) โดยผู้ที่ค้ำประกันจะรับผิดชอบเป็นผู้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยแทนหากผู้ออกไม่สามารถจ่ายได้ โดยในตลาดตราสารหนี้ไทย ส่วนมากผู้ที่จะมาค้ำประกันให้มักจะเป็นบริษัทแม่ที่มีฐานะทางการเงินตลอดจนอันดับเครดิตที่ดีกว่า เช่น ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จะมีบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ไฟแนนซ์ (เนเธอร์แลนด์) บี.วี. เป็นผู้ค้ำประกัน แต่สำหรับผู้ออกที่ไม่มีบริษัทแม่ จำเป็นต้องหาหน่วยงานที่สามารถค้ำประกันการออกหุ้นกู้ให้ได้

Credit Guarantee and Investment Facility หรือ CGIF จัดตั้งโดยความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN+3 ร่วมกับธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนในภูมิภาค มีหน้าที่หลักคือ ให้การค้ำประกันการออกหุ้นกู้ ส่งผลให้ต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ของผู้ออกต่ำลง

หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วทำไม CGIF ถึงมาค้ำประกันการออกหุ้นกู้ได้ ? ต้องบอกว่า CGIF ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับสากล (international scale) ตราสารหนี้ระยะยาวที่ AA โดย S&P ซึ่งสูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ BBB+ ซะอีก ส่งผลให้หุ้นกู้ที่ค้ำประกันการออกโดย CGIF จึงมีโอกาสได้อันดับเครดิตระดับประเทศ (national scale) สูงถึง AAA ผู้ออกที่ค้ำประกันอันดับเครดิตกับ CGIF จึงสามารถข้ามไประดมทุนจากประเทศต่าง ๆ ใน ASEAN+3 ได้

โดยหุ้นกู้ที่ CGIF ค้ำประกันจะได้รับการค้ำประกันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หากผู้ออกไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ผู้ถือหุ้นกู้สามารถทวงถามความรับผิดชอบจาก CGIF ได้ ปัจจุบันมีผู้ออกในไทยเริ่มให้ CGIF ค้ำประกันบ้างแล้ว เช่น บริษัท Noble Group ที่ออกหุ้นกู้อันดับเครดิต AAA/FITCH ได้ในปี 2013 จากเดิมมีอันดับเครดิต BBB-/S&P บริษัท KNM GROUP BERHAD ซึ่งเป็นบริษัทที่ยังไม่ได้จัดอันดับเครดิต สามารถออกหุ้นกู้อายุ 5 ปี ได้ที่อันดับเครดิต AAA/TRIS ในปี 2016 รวมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด ออกหุ้นกู้อายุ 5 ปี ที่อันดับเครดิต AA/TRIS จากเดิมมีอันดับเครดิตอยู่ที่ BBB/TRIS นอกจากประเทศไทยแล้ว CGIF ยังให้การค้ำประกันการออกหุ้นกู้แก่บริษัทในอีกหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น


CGIF นอกจากจะช่วยผู้ออกลดอัตราคูปองที่ต้องจ่ายแล้ว ยังช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ออกสามารถระดมทุนในต่างประเทศได้ด้วย ในสภาวะที่ดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น การค้ำประกันโดย CGIF เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งของผู้ออกในการลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายได้ ผู้ออกที่สนใจรับบริการค้ำประกัน สามารถติดต่อสอบถามได้จาก CGIF ที่ www.cgif-abmi.org