
ก.ล.ต. เผย CPAXT เปิดเผยข้อมูลลงทุน The Happitat ยังไม่ชัดเจน สั่งการณ์ CPAXT ชี้แจงข้อมูลเพิ่ม “ความเห็นบอร์ดและกรรมการตรวจสอบ-เงินลงทุนทั้งหมด-รายการเป็นการให้ความช่วยเหลือบริษัทในกลุ่มหรือไม่” เดดไลน์ 25 ธ.ค.นี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้สั่งให้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat ผ่านการร่วมลงทุนในบริษัทย่อยบริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (AGP) พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ (SETLink) ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567
ตามที่ CPAXT เปิดเผยข้อมูลการเข้าร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat ผ่านการร่วมลงทุนในบริษัทย่อย AGP ในสัดส่วน 95% คิดเป็นมูลค่า 7,970 ล้านบาท ซึ่ง AGP จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (HATF) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat แล้วนั้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อมูลที่ CPAXT เปิดเผยอาจยังไม่ครบถ้วน หรือไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน หรือต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์
ก.ล.ต.จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 58 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ CPAXT ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาทิ
- ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบในการพิจารณาอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ The Happitat
- มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์
- ความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการ
- ระยะเวลาที่คาดว่าจะมีรายได้จากโครงการ
- เงินลงทุนทั้งหมดที่คาดว่าจะใช้ในโครงการ
- รายการดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือบริษัทในกลุ่มหรือไม่อย่างไร
พร้อมทั้งเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัทที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติตามธรรมาภิบาลที่ดี พร้อมทั้งคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ